ขอเอาใจคนรักธรรมชาติและพรรณไม้ด้วยการพาไปชมสวนต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยวฮอกไกโดกันบ้าง
เนื่องจากเกาะฮอกไกโดเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และมีสภาพอากาศหนาวเย็น ทำให้สามารถปลูกพืชพรรณเมืองหนาวได้ดี จึงทำให้มีสวนสวยอยู่มากมายเหนือจดใต้เกาะ เอาให้คนรักธรรมชาติ “ฟิน” กันไปเลย!
1. สวน Odori Park เมือง Sapporo
เริ่มต้นกันที่เมืองซัปโปโรซึ่งเป็นดั่งหัวใจของฮอกไกโด ที่นี่มี สวน Odori Park หรือ Odori Koen เป็นสวนขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซัปโปโร แม้จะมีความกว้างแค่ราวๆ 100 เมตร แต่ด้วยความยาวถึง 1.5 กม. ขนานไปกับถนน Odori จึงทำให้สังเกตได้ง่ายและเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอันดับต้นๆ ของซัปโปโร
สวนสีเขียวขจีแห่งนี้มีทั้งน้ำพุและรูปปั้นประติมากรรมต่างๆ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ ในเมืองซัปโปโรด้วย อาทิ เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร เทศกาล White Illumination ที่จะประดับไฟรับช่วงคริสต์มาสตลอดทั้งสวน รวมไปถึงการประดับสวนด้วยพรรณไม้หน้าร้อนในช่วงฤดูร้อนของฮอกไกโดให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองมาเที่ยวชม เป็นต้น
นอกจากนี้สวน Odori Park นี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง Sapporo TV Tower อีกทั้งบริเวณสุดปลายอีกฝั่งหนึ่งของสวน (ห่างออกไปประมาณ 1.5 กม. ตามความยาวสวน) ยังมีพิพิธภัณฑ์เมืองซัปโปโรที่เป็นแหล่งข้อมูลความเป็นมาของเมือง รวมทั้งศาลจำลองจัดแสดงด้วย
ยังไม่พอ บริเวณใต้สวน Odori Park แห่งนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าใต้ดิน Aurora Town และทางเดินใต้ดินที่เชื่อมต่อไปยังสถานี JR Sapporo ได้อีกต่างหาก!
2. สวน Nakajima เมือง Sapporo
อีกสวนในซัปโปโร สวน Nakajima หรือ Nakajima Koen อยู่บริเวณกลางค่อนทางใต้ของเมืองซัปโปโร เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมือง มีแม่น้ำ Kamokamo ไหลผ่าน มีสระน้ำขนาดใหญ่บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ
นอกจากนี้ ที่นี่มีอาคารสถาปัตยกรรมทันสมัย Sapporo Concert Hall (Kitara) สำหรับจัดแสดงดนตรีโดยเฉพาะ ภายในมีออร์แกนแบบท่อลมขนาดนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส, อาคาร Hoheikan ซึ่งเป็นอาคารไม้สีขาว-ฟ้า ดูน่ารัก เป็นอาคารเก่าแก่ที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ปัจจุบันเป็นอาคารไม้โบราณแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เปิดใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานอยู่ และหอดูดาวซัปโปโรที่เปิดให้เข้าใช้การดูดาวได้จริงในตอนกลางคืนด้วย
3. สวน Onuma เมือง Hakodate
สวน Onuma แห่งนี้อยู่ไกลออกมาจากเมือง Hakodate อีกหน่อย ใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 20 นาที ลงที่สถานี Onumakoen แล้วจะเดินหรือเช่าจักรยานปั่น ปั่น กันก็จะสบายน่องหน่อย เพราะที่นี่เป็นสวนที่ใหญ่ตั้งอยู่อีกฝั่งของทะเลสาป Onuma มีเสน่ห์ ตรงจุดชมวิวที่อยู่ตรงกลางทะเลสาบทั้งสองฝั่ง ซึ่งในยามใบไม้ร่วงเป็นจุดถ่ายภาพที่เหล่าตากล้องทั้งหลายไม่ควรพลาด ได้ภาพโทนส้มๆอมแดงตัดกับน้ำสีฟ้าใสๆ แจ่มเลยหละ
4. สวน Tomita Farm เมือง Furano
Tomita Farm เทียบได้เป็นสาวงามแห่งเมือง Furano เลยก็ว่าได้ สวนแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คที่ใครมาฮอกไกโดแล้วไม่ได้มาก็ถือว่ามาไม่ถึง ด้วยภาพที่คนส่วนใหญ่เห็นกันจนชินสายตา นั่นก็คือ ทุ่งดอกไม้ห้าสี และทุ่งลาเวนเดอร์ที่เบ่งบานในยามหน้าร้อน ถ้ามาฤดูอื่นก็ยังพอมีลาเวนเดอร์ให้ดูนะ เพียงแต่จะอยู่ในเรือนกระจกไม่เล็กไม่ใหญ่…แค่พอรับแขกว่างั้น
ในฤดูอื่นๆก็มีดอกไม้ชนิดอื่นหมุนเวียนให้ได้ชื่นชม แชะรูปงามๆกัน ยกเว้นหน้าหนาวเพราะที่นี่จะขาวโพลนเต็มไปด้วยหิมะ อ้อ ที่สำคัญ มาที่นี่อย่าพลาดไอศกรีมกลิ่นลาเวนเดอร์เด็ดขาด ของดีของฟาร์ม Tomita เขาเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม Tomita Farm
5. สวน Tokiwa เมือง Asahikawa
สวน Tokiwa หรือ Tokiwa Koen ปอดแห่งหนึ่งของชาวเมือง Asahikawa นอกจากเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายแล้ว ที่นี่ยังใช้จัดนิทรรศการรวมถึงอีเวนต์ต่างๆของเมืองอีกด้วย ภายในถูกจัดแต่งด้วยต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สวนดอกไม้ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และบึงขนาดใหญ่ให้ได้พายเรือชมวิวเบาๆ
6. สวน Kamiyubetsu Tulip Park เมือง Monbetsu
สวน Kamiyubetsu Tulip Park ตั้งอยู่ในเมือง Yubetsu ซึ่งอยู่ในเขตเมือง Monbetsu อีกที ที่นี่เป็นสวนทิวลิปที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด มีทิวลิปนานาสายพันธุ์กว่า 1 ล้านต้นบนพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร แต่จะมีให้ชมแค่เฉพาะในช่วงต้นเดือนพ.ค.-ต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาล Kamiyubetsu Tulip Fair เท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม สวน Kamiyubetsu Tulip Park
7. สวน Takinoue Park เมือง Monbetsu
นอกจากนี้สวนทิวลิปแล้ว ในเขตเมือง Monbetsu ยังมีทุ่งพิงค์มอส Takinoue Park ที่เมือง Takinoue ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองที่มีสวนทิวลิป ทั้งยังบานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันด้วย หากมาเที่ยวก็สามารถรวบโปรแกรมให้ทั้งสองสวนนี้อยู่ในวันเดียวกันได้เลย
ที่ทุ่งพิงค์มอส Takinoue Park คุณจะได้พบกับดอกพิงค์มอส (Moss Phlox หรือ Shibazakura) ต้นเตี้ยๆ สีชมพูสดใสปกคลุมทั่วทั้งเนินจนทำให้เหมือนเดินบนพรมสีชมพู พิงค์มอสจะออกดอกในช่วงปลายเดือนพ.ค.-กลางเดือนมิ.ย.
ข้อมูลเพิ่มเติม ทุ่งพิงค์มอส Takinoue Park
8. สวน Hana Tento Flower Gardens เมือง Abashiri
ที่เมืองฟุระโนะมีทุ่งดอกไม้ 5 สีชื่อดัง ส่วนที่เมือง Abashiri ก็มี Hana Tento Flower Gardens ทุ่งดอกไม้หลากสี (เผลอๆ จะมากกว่า 5 สีด้วยซ้ำ!) อยู่ในสวนขนาดใหญ่ถึง 35,000 ตารางเมตรครอบคลุมพื้นที่ตลอดเนินเขาริมทะเลโอคอทสก์
ที่นี่ เพื่อนๆ จะสามารถขึ้นไปยังเนินเขาได้ มีหอคอยสูงสำหรับชมทิวทัศน์สวน เมือง Abashiri มองออกไปเห็นวิวทะเลชัดเจน ที่นี่ดอกไม้จะเริ่มบานในช่วงต้นเดือน สิงหาคม-กลางตุลาคม และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว พื้นที่ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นลานสกีแทน
9. สวน Tokachi Millenium Forest เมือง Obihiro
สวน Tokachi Millenium Forest จะมีลักษณะแตกต่างจากสวนอื่นๆ ที่ได้แนะนำมา เพราะจะไม่ใช่เพียงแค่สวนดอกไม้สวยงามเท่านั้น แต่บนพื้นที่ราว 2,500 ไร่กลางขุนเขาแห่งนี้ ได้แบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วนแตกต่างกัน ทั้งสวนป่าธรรมชาติ สวนดอกไม้ธรรมชาติจำลอง ฟาร์มพืชสวนทางการเกษตร ฟาร์มปศุสัตว์ ฟาร์มม้า ร้านอาหาร และแกลเลอรี่ด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนสไตล์คนรักธรรมชาติที่รื่นรมย์ครบวงจรเลยจริงๆ
จะเห็นได้ว่าการเที่ยวฮอกไกโดนั้นมีสวนอยู่มากมายจุใจ แถมแต่ละที่ก็ล้วนมีเอกลักษณ์ที่ไม่น่าพลาดเลย ถ้าได้ลองไปสัมผัสคนที่ชอบธรรมชาติ – รักการทำสวน – เลิฟการพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศเย็นๆ เขียวชอุ่ม จะต้องเผลอใจหลงรักสวนสวยๆ ในฮอกไกโดอย่างแน่นอน
อ๊ะ ก่อนจะจบบทความไป ขอเตือนก่อนเล็กน้อยว่าฤดูกาลต่างๆ ในบทความนี้ เราจะอิงตามฤดูกาลของฮอกไกโดค่ะ ซึ่งจะไม่ตรงกับบ้านเรา แถมฤดูกาลยังเหลื่อมกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นอยู่เล็กน้อยด้วย ก่อนจะไปเที่ยวควรศึกษาสภาพอากาศและฤดูกาลของเกาะฮอกไกโดให้ดีก่อนด้วยค่ะ ☆~(≧◡≦)ノ
หากยังงงๆ สับสนเกี่ยวกับฤดูกาล เราขอแนะนำอีกบทความเกี่ยวการแบ่งฤดูและการท่องเที่ยวฮอกไกโดในฤดูต่างๆ ค่ะ:
[icon wt] เที่ยวฮอกไกโด ฤดูไหนได้บ้าง? คลิก
ข้อมูลจาก : หนังสือ Hokkaido ฮอกไกโด เล่มเดียวเที่ยวได้ทั้งปี
ผู้เขียน : DPlus Guide Team