เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญในนามของ DPlus Guide ให้ไป เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว และลองเล่นสกีเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ Hilton Niseko Village รีสอร์ทครบวงจรขนาดใหญ่ที่เกาะฮอกไกโด เลยเก็บภาพและเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อใครไปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว แล้วคิดจะไปลองเล่นสกีดูบ้าง ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้ว ถึงจะไม่ง่ายมาก แต่ก็ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ :-)
เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ต้องไปเล่นสกี จริงมั้ย?
อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาของคนไทยที่บ้านเราไม่มีหิมะ ดังนั้นเวลาไปเมืองหนาว ถ้าไม่เอาช่วงอากาศดี เย็นสบาย ก็อยากจะไปช่วงที่มันหนาวสุดๆ ไปเลย จะได้เห็นหิมะ ลองจับแล้วจะได้กรี๊ดกร๊าดกันให้สมใจอยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ก็มักจะนึกถึงการเล่นสกี ที่ดูๆ แล้วน่าสนุก แต่ที่กล้าๆ กลัวๆ กันก็มีอยู่สองอย่าง คือกลัวยาก กับกลัวแพง เลยจะเอามาเล่าสู่กันฟังว่ามันยากง่ายแค่ไหน ส่วนจะถูกจะแพงนั้นต้องแล้วแต่แต่ละคนที่มีความอยากจะจ่ายอยากจะลองไม่เท่ากัน แต่บอกไว้ก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายพอสมควร แล้วแต่แต่ละที่ด้วย
(หัด)เล่นสกียากมั้ย?
พอพูดถึงเล่นสกี คนไทยส่วนมากเราจะไม่คุ้นเคย แต่อยากจะบอกว่าถ้ามีโอกาสลองสักครั้งในชีวิตก็ดีนะครับ มันจะยากตอนเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งมักจะต้องซื้อเป็นคอร์สสำหรับคนที่ไม่เป็นเลย ให้ครูฝึกสอนแล้วลองหัดดูก่อน ทีนี้มือใหม่ต้องเริ่มจากการเลือกเช่าอุปกรณ์ที่ขนาดพอดีกับตัวเราก่อน ทั้งชุดกันหิมะ และรองเท้าสกีซึ่งแข็งเป๊ก บิดงอไม่ได้เหมือนรองเท้าบู๊ตธรรมดานะครับ เพราะเค้าต้องกันข้อเท้าบิดหรือแพลงเวลาเล่น ใส่แล้วเดินกะโผลกกระเผลกยากอยู่ แถมยังต้องแบกตัวสกีเองกับไม้ค้ำยัน ซึ่งรวมๆ แล้วก็หนักพอสมควร
เริ่มต้นครูฝึกจะสอนการบังคับสกีเบื้องต้น คือ การยืน การเดิน การปล่อยให้ลื่นไหล (อันนี้แทบไม่ต้องฝึก พอยืนมันก็จะไหลไปอยู่แล้ว ^_^) และที่สำคัญคือการเบรคให้อยู่ วิธีก็คือเอาปลายด้านหน้าของสกีทั้งสองข้างชิดกัน แต่ส้นเท้าหรือปลายด้านหลังแยกห่างกันเป็นรูปสามเหลี่ยม หรือที่ครูฝึกเค้าเรียกตอนสั่งให้ทำว่า “พิซซ่า” นึกภาพแต่ละชิ้นสามเหลี่ยมที่เราตัดออกมาจากถาดตามนะครับ แถมต้องเกร็งให้เท้าและทั้งขา รวมไปทั้งเจ้าสกีสองข้างอยู่ในรูปนี้ให้ได้ ต้องทำให้ได้ด้วยนะครับ ไม่งั้นเบรคไม่อยู่ ไปเริ่มเล่นที่ลานจริงไม่ได้เลย เป็นอะไรที่ปวดกล้ามเนื้อก้นสุดๆ จริงๆ แถมเจ้าไม้สกีสองข้างที่คอยยันกันล้มนี่ พอเกร็งมากๆ พาลเจ็บแขนอีก ส่วนไอ้ตอนล้มนี่ไม่เจ็บนะครับเพราะหิมะมันนุ่ม แต่ต้องระวังอย่าไหลไปกระแทกอะไรแข็งระหว่างทางที่เค้าเอาตาข่ายกันไว้ก็แล้วกัน
พอควบคุมการไหลและเบรคได้แล้วครูฝึกเค้าก็พาขึ้น chair lift นึกในใจว่าเวรละ จะพาตูไปปล่อยสูงชันแค่ไหนฟระเนี่ย เอาแค่ตะกายขึ้นและลง chair lift ให้ทันก่อนนี่ก็เหนื่อยแล้ว นั่งทำใจไปสักพักก็ถึงที่ต้องรีบลงก่อนที่ chair lift จะวนกลับไป จุดที่เค้าปล่อยนั้นเอาจริงๆ ก็สูงอยู่แหละครับ แต่ไม่ชันมาก เป็นเส้นทางสำหรับมือใหม่หัดเล่นครั้งแรก เริ่มเดินกระโผลกกระเผลกมาให้ถึงจุดสตาร์ท ก๊วนผมมีประมาณ 5 คน มือใหม่แทบจะทุกคน เลยอุ่นใจได้ว่าคงไม่มีใครหัวเราะเยาะเรา พอถึงลานที่เป็นจุดสตาร์ทก็เริ่มปล่อยตัวให้ไหลลงมาช่วงสั้นๆ ครูฝึกเค้าคอยตามมาดูตลอด เพราะบางคนก็บังคับไม่อยู่แถออกนอกทาง บางคนก็ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น ชุดสกีมันรัดแถมอุปกรณ์ก็หนักเอาเรื่อง ครูฝึก เรียกว่าในชุดนี่เหงื่อท่วมทีเดียวทั้งๆ ที่ภายนอกหิมะตกและอุณหภูมิติดลบเล็กน้อย แต่ดูสภาพการณ์แล้วคาดว่าเพื่อนร่วมก๊วนคนอื่นคงไม่ต่างกัน (เข้าข้างตัวเองไปมั้ยเนี่ย :-)
Hilton Niseko Village เป็นตึกใหญ่ตึกเดียว พร้อม ski gondola ขึ้นไปข้างบนเขา – ภาพ : Hilton.com
ชักภาพหมู่กันหลังรอดมาได้ ^_^
เกร็งแทบแย่ให้มันอยู่นิ่งๆ ถึงจะถ่ายได้
ในที่สุดหลังจากปล่อยไหลและหยุดพักเป็นช่วงๆ (อย่าเรียกว่าเล่นสกีเลย มันกระดากปาก แค่ปล่อยไหลแล้วก็เบรค ปล่อยไหลแล้วก็เบรคอีก ตามทางที่มีแค่นั้น) ราวครึ่งชั่วโมงก๊วนของเราก็ลงมาถึงลานข้างล่างจนได้ สรุปแล้วหัดสกีครั้งแรกไม่ง่ายมาก แต่ก็ไม่ยากอย่างที่กลัวครับ (ถ้าคุณเล่นกีฬาอื่นๆ อยู่แล้วก็มักจะเป็นเร็ว แต่ถ้าคุณเป็นพวกตัวแข็ง ทรงตัวไม่เป็นแบบผม อันนั้นก็นานหน่อยกว่าครูฝึกจะยอมวางใจได้ แถมยังได้อาการแขนขาเคล็ดแถมมาอีกเป็นเดือน ไม่ใช่เพราะล้มหรือบาดเจ็บอะไรนะครับ เพราะเนินของมือใหม่มันไม่ชันมาก หิมะก็นิ่ม ล้มไปไม่เจ็บ แต่ที่เคล็ดคือเราเกร็งแขนขาซะจนเจ็บเองต่างหาก) ยังไงถ้าไม่เคยหรือไม่เป็นอย่าพยายามหัดเองเลยครับ แค่ใส่รองเท้าสกีแล้วล็อคเข้าที่ให้ถูกก็เหนื่อยแล้ว ยิ่งถ้าไปกันเป็นกลุ่มก็ให้ครูของทางรีสอร์ทหรือที่เช่าอุปกรณ์เขาสอนดีกว่า
สำหรับคนที่จะไปเล่นสกี อุปกรณ์ของทางรีสอร์ทเค้ามีให้ครบ ตั้งแต่ชุดสกีจนถึงรองเท้าทุกเบอร์ ถ้าจ่ายไหวก็หาของได้ครับ ส่วนใครชำนาญแล้วจะขนเอาอุปกรณ์ที่พอดีตัวไปเอง เช่น ชุดสกีหรือสโนว์บอร์ดก็ไม่ว่ากัน
ทำไมต้อง Niseko?
Niseko (นิเซโกะ) เป็นแหล่งรวมสกีรีสอร์ทดังๆ หลายแห่ง อยู่ทางตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร ห่างทะเลไม่มากนัก และอยู่ระหว่างภูเขา Niseko-Annupuri กับภูเขา Yotei ภูเขาสูงที่สุดในฮอกไกโด ซึ่งมีรูปทรงกรวยคว่ำและเป็นเขาลูกใหญ่โดดๆ แบบเดียวกับภูเขาฟูจิ จึงได้ชื่อว่าเป็น “ฟูจิน้อยแห่งฮอกไกโด”
ที่นี่ว่ากันว่าหิมะมีคุณภาพดีที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก จึงเป็นแหล่งสกีที่มีคนจากทั่วโลกนิยมมากัน ไม่ใช่เฉพาะในญี่ปุ่น หิมะคุณภาพดีที่ว่านี้เรียกว่า powder snow คือเป็นปุยละเอียด เวลาตกทับถมกันแล้วจะฟู ไม่แน่นเกิน เหมาะกับการเล่นสกี สโนว์บอร์ด มากกว่าหิมะธรรมดา เพราะจะนุ่มและลื่นไหลกำลังพอเหมาะ โดยเกิดจากการที่ Niseko อยู่ใกล้ทะเลและมีภูเขาเตี้ยคือ Niseko-Annupuri (1,300 เมตร) อยู่ข้างหน้า ทำให้ลมพัดพาความขื้นจากทะเลกลายเป็นละอองหิมะที่ละเอียดพอดีข้ามภูเขามา และเมื่อปะทะเข้ากับภูเขา Yotei (1,900 เมตร) ที่ด้านหลังก็จะม้วนตีกลับ และทำให้เกิดหิมะตกในลักษณะ powder snow เป็นจำนวนมากในระหว่างกลางคือบริเวณ Niseko นี่เอง
ภูเขาโยเท (Mt. Yotei) มองจาก Niseko
จุดขายที่สำคัญของ Niseko ที่คนทั่วโลกมากันก็เพราะ “มีหิมะที่ดีในระดับความสูงที่ไม่มากนัก” คือภูมิประเทศแบบที่มี powder snow นี้หาได้ไม่ง่ายนัก ปกติจะเกิดได้ที่ระดับความสูงมากๆ เกินสองสามพันเมตรขึ้นไป ซึ่งจะมีอากาศและออกซิเจนบางกว่า ไม่เหมาะกับการเล่นสกี ในขณะที่ภูเขา Niseko-Annupuri สูงแค่พันกว่าเมตรเท่านั้น นักสกีจึงไม่มีปัญหาในเรื่องการหายใจหรืออาการแพ้ความสูง (altitude sickness) เหมือนที่อื่นๆ แถมยังมี slope ที่หลากหลายและไม่ชันมาก จึงเหมาะกับทั้งนักสกีมือใหม่และมือโปร นอกจากนั้นพื้นที่บริเวณนี้ยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ บนหิมะ เช่น เล่นสโนว์บอร์ด ขับรถเลื่อนสโนว์โมบิล นั่งแพลาก (Snow-rafting) หรือเลื่อนเทียมสุนัข (dog-sledge) ฯลฯ อีกด้วย
ไปยังไงดี?
การเดินทางไป Niseko นั้นสะดวกที่สุดคือทางรถยนต์ เพราะสามารถเข้าถึงรีสอร์ทได้ทุกโซน แต่ในฤดูหนาวไม่แนะนำให้เช่ารถขับไปเองนะครับ คนเมืองร้อนอย่างเราไม่ชินกับสภาพที่มีหิมะตกหนักจนมิดถนน อาจขับไปตกไหล่ทางเอาได้ง่ายๆ แนะนำว่าพักรีสอร์ทไหนก็มักจะมีรถบัสของรีสอร์ทนั้นมารับจากสนามบิน New Chitose หรือจากในเมืองซัปโปโรเลย สะดวกและปลอดภัยกว่ากันเยอะ หรือถ้าเป็นที่พักเล็กๆ โซน Grand Hirafu ซึ่งไม่ใช่รีสอร์ทขนาดใหญ่ ก็ยังสามารถหารถบัสไปได้ไม่ยาก
รถบัสจากสนามบิน New Chitose ไป Niseko ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ เป็นวิธีเดินทางที่สะดวกที่สุด
ส่วนรถไฟนั้นก็สามารถไปได้เช่นกัน แต่จะไปถึงสถานีรถไฟ JR Kutchan ซึ่งอยู่ใกล้เฉพาะโซน Grand Hirafu ที่เป็นชุมชนใหญ่เท่านั้น คือพอจะเรียกแท็กซี่ต่อไปที่พักได้ (อย่าเข้าใจผิดไปลงสถานี JR Niseko นะครับ อันนั้นใกล้ตัวเมือง Niseko แต่ไกลแหล่งที่เล่นสกีออกไปมาก หรือแม้แต่สถานี JR Hirafu ที่อยู่ใกล้โซน Grand Hirafu ที่สุดก็ไม่แนะนำ ไปลงที่ Kutchan จะดีกว่า) ส่วนถ้าจะไปโซนอื่นๆ ที่เป็นรีสอร์ทใหญ่ เช่น Hilton ต้องหารถบัสที่วิ่งระหว่างแต่ละโซนต่ออีกทีหนึ่ง
มีอะไรให้เล่นบ้าง?
หลักๆ แล้วเค้าจะเล่นสกีกับสโนว์บอร์ดครับ แล้วแต่ว่าใครจะถนัดอะไร ส่วนคนที่ไม่อยากเล่นเอง แต่ยังอยากสัมผัสกับหิมะ ก็สามารถหากิจกรรมอื่นทำได้ อันนี้แล้วแต่รีสอร์ท เช่นรีสอร์ทใหญ่บางที่ก็มีให้ลองขับสโนว์โมบิลเอง หรือมีสุนัขลากเลื่อน ไม่ก็ลองนั่งเรือยางให้สโนว์โมบิลลาก ฯลฯ แล้วแต่พื้นที่และการลงทุนของแต่ละแห่ง
ขบวนสโนว์โมบิลเตรียมออกแล้ว
ต้องเตรียมอุปกรณ์อย่างไร?
สำหรับสกีกับสโนว์บอร์ดนั้นมักจะมีอุปกรณ์ให้เช่าครบครันอยู่แล้ว ส่วนกิจกรรมอื่นๆ อาจไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไร นอกจากชุดกันหนาวที่ต้องรัดกุมและพอเพียงจะต้านทานความเย็นระดับติดลบได้นะครับ ส่วนแว่นตากันลมกันหิมะนั้นเค้ามักจะมีให้อยู่แล้ว แนะนำให้ลองสอบถามรายละเอียดจากที่พักแต่ละที่ดูได้เลยครับ ถ้าเค้าไม่มีบริการเองอย่างน้อยก็จะแนะนำต่อได้ว่าไปใช้บริการตรงไหน สำหรับโซนที่เป็นรีสอร์ทใหญ่ก็จะค่อนข้างเป็นส่วนตัวดีหน่อย แต่ถ้าเป็นโซนเปิดทั่วไปอย่าง Grand Hirafu ก็ต้องระวังผู้คนมากหน้าหลายตานิดนึง เพราะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกทีเดียว
