เที่ยวญี่ปุ่น เมืองเกียวโต (Kyoto) จุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่อพันกว่าปีก่อน เป็นศูนย์รวมงานฝีมือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องผ้ากิโมโนของเกียวโตมีชื่อเสียงมาก ในเมืองเกียวโตเต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าทั้งใหญ่เล็กมากมาย เราสามารถพบเห็นศาลเจ้าขนาดเล็ก ๆ ตั้งติดอยู่กับตึกรูปทรงทันสมัยอย่างไม่ขัดเขิน
วัดและศาลเจ้าในเมืองเกียวโตถือว่ามีความเก่าแก่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หลายแห่งถูกประกาศให้เป็นมรดกด้านวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก เมืองเกียวโตนี้ยังเป็นสถานที่กำเนิดหญิงสาวผู้ทาหน้าขาวในชุดกิโมโนนาม “เกอิชา” ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักท่องเที่ยวให้ตามหาและเจอตัวจริงสักครั้ง เป็นเมืองที่มีความคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติตลอดทั้งปี
ดีพลัสไกด์ (Dplus Guide) ขอแนะนำ ! 10 สถานที่เที่ยวเกียวโต (Kyoto) อดีตเมืองหลวงอันรุ่งเรืองของญี่ปุ่น ได้แก่
1. ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว
ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ ศาลเจ้าแห่งนี้นักท่องเที่ยวต่างก็รู้จักกันดี โดยเฉพาะอุโมงค์โทริอิ (Torii) ที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้น ไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร เป็นจุดถ่ายรูปและจุดโปรโมตการท่องเที่ยวที่จะได้เห็นกันบ่อย ๆ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นมาเที่ยวคันไซแล้วไม่ควรพลาดนะจ๊ะ!
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
2. ศาลเจ้าชิโมคาโมะ หรือคาโมะมิโอยะ
เที่ยวญี่ปุ่น ศาลเจ้าชิโมคาโมะหรือคาโมะมิโอยะ (Shimogamo Jinja, Kamomioya Jinja 下賀茂神社) เป็น 1 ใน 17 แหล่งมรดกโลกของจังหวัดเกียวโต (Kyoto) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโก้ เป็นที่รู้จักกันในนาม “ศาลเจ้าคาโมะเบื้องล่าง” เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ตรงจุดบรรจบของแม่นํ้าทาคาโนะและคาโมะไหลมารวมกัน เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเทมมูช่วงปี ค.ศ. 675-686 เพื่อบูชาแด่เทพเจ้า Kamo Tamayori-hime
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
3. วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizudera) หรือวัดน้ำใส
เที่ยวญี่ปุ่นชมวัดคิโยมิสึเดระ Kiyomizudera ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่นักท่องเที่ยวที่มาเกียวโต (Kyoto) จะต้องมาเยือนให้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วจะถือว่ามาไม่ถึงเกียวโต วัดคิโยมิสึเดระ มีความหมายว่า “วัดนํ้าใส” ตั้งอยู่ที่เขตฮิกาชิยามะ เชิงเขา โอโตวะด้านทิศตะวันออกของเมืองเกียวโต เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกาย ฮอสโซ (法相宗) มีพระโพธิสัตว์พันกร (千手観音) พระประธาน ที่มาของชื่อวัดคิโยมิสึเดระ ได้มาจากน้ำพุธรรมชาติที่ไหลมาจากเขาโอโตวะที่มีความใส บริสุทธิ์และเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
4. วัดคินคะคุจิ (Kinkaku-ji) หรือวัดปราสาททอง วัดโระคุอนจิ (Rokuonji)
หนึ่งในวัดดังของเกียวโตที่ไม่ว่าใครก็ต้องมายลโฉมความงดงามของปราสาททองเหลืองอร่ามเป็นขวัญตาสักครั้ง วัดปราสาททองแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วัดโระคุอนจิ” (Rokuonji) เดิมเคยเป็นบ้านพักตากอากาศ ของรัฐบุรุษนาม ไซออนจิ คิทซึเนะ (Sionji Kitsune)
บ้านพักตากอากาศนี้เดิมเรียกว่า “คิตะยะมะได” (Kitayama-dai) จนกระทั่งในปี 1397 โชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ได้ซื้อสถานที่แห่งนี้ต่อจากไซออนจิ และเปลี่ยนเป็นที่พำนักของโชกุนโดยตั้งชื่อว่า “คิตะยะมะโดโนะ” (北山殿) ต่อมาในปี ค.ศ. 1419 บุตรชายของโชกุนอาชิคางะได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นวัดนิกายเซน สายรินไซ
หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่องเณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง คงจะจำท่านโชกุนที่ชอบมาประลองปัญญากับอิคคิวซังบ่อย ๆ ซึ่งโชกุนในเรื่องก็คือท่าน อาชิคางะ โยชิมิซึ นั่นเอง และภาพของปราสาททองคินคาคุจิก็ปรากฎอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
5. วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือวัดพลับพลาเงิน
วัดกินคะคุจิหรือที่เรียกกันว่าวัดพลับพลาเงิน เป็นวัดดังอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเกียวโต ถูกยกให้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์แห่งเมืองเกียวโตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 โดยองค์การยูเนสโก
พื้นที่วัดนี้เดิมทีเคยเป็นที่พักของอดีตโชกุนอะชิคางะ โยชิมาสะ โดยมีการจำลองแบบมาจากวัดพลับพลาทองคินคาคุจิ (Kinkakuji) ที่สร้างโดยโชกุนอะชิคางะ โยชิมิทสุ ผู้เป็นปู่ หลังจากโชกุนอะชิคางะ โยชิมาสะ สวรรคต วังแห่งนี้จึงได้ถูกดัดแปลงให้เป็นวัดเซนในปี ค.ศ. 1490
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
6. วัดนินนาจิ (Ninna-ji)
วัดนินนาจิ (Ninnaji) ก่อตั้งขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ.888 ในช่วงต้นยุคสมัยเฮอัน โดยสมเด็จพระจักรพรรดิโคโกะ (Emperor KoKo) ทรงมีดำริจะสร้างวัด “นิชิยามา โกกันจิ” (Nishiyama Goganji) ขึ้น แต่ได้สวรรคตไปก่อนวัดนี้จะสร้างเสร็จ ภายหลังจักรพรรดิอุดะ (Emperor Uda) ผู้เป็นบุตรชายได้ดูแลการก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จและมีการเปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็น “นินนาจิ” แทน
สิ่งที่น่าสนใจของวัดนินนาจิก็คือ อาคาร Goten ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้านักบวชเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่มีระเบียงยาวเดินเชื่อมถึงกัน มีประตูบานเลื่อนลงรักปิดทองอย่างสวยงามหรูหรา ด้านนอกเป็นสวนญี่ปุ่นจัดแต่งอย่างสวยงาม ภายในวัดมีเจดีย์ 5 ชั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนซากุระพันธุ์เตี้ย Omuro Cherry บางกิ่งอยู่ต่ำเกือบติดพื้น ซึ่งจะบานช้ากว่าพันธุ์อื่น ๆ วัดนินนาจิถือเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเกียวโตด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
7. อาราชิยามา (Arashiyama)
อาราชิยามาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของเกียวโต เหมาะสำหรับใครที่เบื่อวัดวาอาราม โหยหาธรรมชาติ สายนํ้า และภูเขาต้องไม่พลาดที่นี่ เช่น สะพานโทเง็ตสึเคียวสะพานที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโฮสุโดยมีภูเขาอาราชิยามาเป็นฉากหลัง ทางเดินเลียบแม่น้ำโฮสุเดินชมวิวธรรมชาติอาราชิยามา สักการะวัดเซ็นโกจิ (Senko-ji) วัดเล็ก ๆ กลางหุบเขา ทางเดินเลียบป่าไผ่ ที่สองข้างทางเดินเต็มไปด้วยต้นไผ่เขียวชอุ่ม ย่านบ้านเรือนเก่าซากะ โทริอิโมโตะ บ้านไม้สถาปัตยกรรมสมัยเมจิ นั่งรถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ เป็นไฮไลท์ของการเที่ยวอาราชิยามา ชมวิวเลียบแม่น้ำโฮสุลัดเลาะไปตามป่าสน เมเปิล และต้นซากุระ ที่ขึ้นเต็มหุบเขา
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
8. ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path)
ทางเดินเท้าเล็ก ๆ เลียบคลองบิวาโกะใสสะอาดที่มีจุดเริ่มต้นจากบริเวณหน้าวัดกินคะคุจิไปจนสุดทางที่วัดนันเซ็นจิ ได้รับยกย่องว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต ที่มาของชื่อ “ถนนสายนักปราชญ์” นี้ได้มาจาก ในอดีตนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในช่วงศตวรรษที่ 20 ชื่อ Nishida Kitaro มักจะมาเดินสงบจิตใจที่นี่เพื่อให้เกิดสมาธิ
ในวันปกติ เส้นทางนี้จะเป็นเพียงทางเดินเลียบคลองอันแสนเงียบสงบที่ชาวบ้านละแวกนี้ใช้เป็นที่สัญจรและพักผ่อนหย่อนใจ แต่ในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูที่ดอกซากุระบานนั้นทางเดินเส้นนี้กลับเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศที่พากันมาชมความงามของซากุระกว่า 500 ต้นที่ปลูกเลียบไปตามริมคลอง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบเมเปิลและแปะก๊วยที่ปลูกอยู่ริมคลองก็จะพากันเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง สวยงามไม่แพ้ช่วงซากุระบานเช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
9. พระราชวังเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)
เที่ยวญี่ปุ่นชมพระราชวังเกียวโต (Kyoto Imperial Palace) หรือชื่อในภาษาญี่ปุ่น (京都御所 Kyōto-gosho) ในอดีตเคยเป็นที่ประทับขององค์พระจักรพรรดิมาตั้งแต่สมัยเกียวโตยังเป็นเมืองหลวงของประเทศ ก่อนจะย้ายไปยังโตเกียวเช่นปัจจุบัน พระราชวังเกียวโตตั้งอยู่ในพื้นที่สวนอันกว้างขวางที่เรียกว่า Kyōto Gyoen (京都御苑) ภายในสวนแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระราชวัง Sento Imperial Palace (Sentō Gosho 仙洞御所) ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
10. ย่านกิอน Gion
ย่านกิอน Gion แหล่งบันเทิงยามคํ่าคืนที่มีชื่อเสียงของเกียวโต เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต่างมุ่งหวังว่าจะได้มาเจอกับ “เกอิชา” หญิงงามผู้ให้ความบันเทิงกับแขกที่มาดื่มกิน ย่านกิอนตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกียวโต ใกล้กับศาลเจ้ายาซากะถือเป็นย่านที่คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวย่านหนึ่งของเกียวโต
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
ข้อมูลจาก : หนังสือ Japan Kansai เที่ยวญี่ปุ่น ฉบับตะลุยคันไซ | เรื่องและภาพ: ตะวัน พันธ์แก้ว