โอซาก้า (Osaka)
เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคคันไซ (Kansai) ที่มีตึกขนาดใหญ่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตถึงปัจจุบัน แต่ไม่แออัดเท่าโตเกียว พื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะมีมากกว่า ถนนหนทางยังคงมีกลิ่นอายของบรรยากาศเก่า ๆ แทรกซึมอยู่ในทุกย่าน แถมยังเป็นเมืองที่เป็นต้นกำเนิดของสินค้าและอาหารชื่อดังต่าง ๆ มากมาย เช่น กูลิโกะ, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนิชชิน, โอโคโนมิยากิ, ทาโกยากิ ฯลฯ
ไม่เพียงเท่านั้น หากเดินทางต่อจากโอซาก้าเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็สามารถหลีกหนีจากความวุ่นวายและอึกทึกของเมืองหลวง ออกไปสู่อ้อมกอดของขุนเขาหรือท้องทะเลในเมืองที่อยู่รอบ ๆ ได้ เช่น โกเบ, นารา, วาคายามา ฯลฯ ได้อีกด้วย
DPlus Guide ขอแนะนำ! 10 สถานที่น่าเที่ยวญี่ปุ่นจังหวัดโอซาก้า (Osaka) มหานครแห่งภูมิภาคคันไซ (Kansai)
1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1583 โดยไดเมียวผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ มีต้นแบบมาจากปราสาทอะซุจิอันเป็นที่พำนักของโอะดะ โนบุนากะ ใช้เวลาก่อสร้างร่วม 2 ปีจึงแล้วเสร็จ
บริเวณที่ก่อสร้างปราสาทโอซาก้านั้น เดิมเคยเป็นวัดชื่อ Hongan-ji มาก่อนจะถูกทำลายลงด้วยฝีมือของโอดะ โนบุนากะ ตัวปราสาทสูง 55 เมตร มีทั้งหมด 8 ชั้น ล้อมรอบไปด้วยคูนํ้าและกำแพงขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร เพื่อเป็นการป้องกันการโจมตีจากข้าศึก ปราสาทโอซาก้าถูกทำลายทั้งจากสงครามและภัยธรรมชาติ (ฟ้าผ่า) และถูกบูรณะขึ้นมาใหม่หลายครั้ง
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
2. วัดเก่า ชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple)
ชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) โอซาก้า ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเทนโนจิมากนัก เป็นวัดสำคัญที่ยังคงสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัดจีน ซึ่งถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สำหรับคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นเชิงวัฒนธรรมและสนใจสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
3. ตึกอุเมดะ สกาย Umeda Sky Building
ตึกอุเมดะ สกาย Umeda Sky Building เป็นจุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุดในย่านอุเมะดะเลยก็ว่าได้ สามารถเดินได้จากสถานี Osaka Station หรือสถานี Umeda Station ก็ได้ อาคารหรูนี้มีทั้งจุดชมวิวที่เรียกว่า “Floating Garden Observatory” มีลักษณะเป็นทางเดินเปิดโล่งวนรอบ สามารถมองเห็นวิวตัวเมืองโอซาก้า (Osaka) ได้ 360 องศา โดยเฉพาะวิวในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีของอาคารสูงในเขตคิตะ คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก แค่เฉพาะตึกนี้ก็ดีไซน์หรูหราไฮโซ คุ้มค่าแก่การแวะมาชมแล้วล่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
4. หอคอยทสึเทงคาคุ (Tsutenkaku)
หอคอยทสึเทงคาคุ (Tsutenkaku) เคยเป็นดั่งตัวแทนของความรุ่งเรืองของเมืองโอซาก้าเมื่อครั้งอดีต สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกปี ค.ศ. 1912 โดยมีหอไอเฟลของฝรั่งเศสเป็นต้นแบบ จึงมีอีกชื่อว่า “หอไอเฟลแห่งนานิวะ” (Eiffel Tower of Naniwa) เดิมมีความสูงเพียง 64 เมตร แต่ถือว่าสูงสุดในภูมิภาคเอเชียในขณะนั้น และเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากสำหรับชาวเมืองโอซาก้า
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
5. พิพิธภัณฑ์ทาโกะยากิ (Takoyaki Museum)
พิพิธภัณฑ์ทาโกะยากิ (Takoyaki Museum) ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของ Universal City Walk ด้านในจะมีร้านทาโกยะกิร้านดังของโอซาก้า 5 ร้าน ที่ได้รับการโหวตจากชาวเมืองแล้วว่าอร่อยที่สุด ซึ่งแต่ละร้านก็จะส่วนผสมเด็ด ๆ ที่แตกต่างกันไป ก่อนจะเลือกชิมร้านใดก็ลองเดิน ๆ ดูส่วนประกอบหรือบรรยากาศก่อนก็ได้ หรือถ้าใครสามารถจะลองชิมให้ครบทั้ง 5 ร้านก็จัดไปเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
6. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) ที่โอซาก้ามีผู้คนมาเยี่ยมชมหนาแน่นทุกวัน เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มใหญ่สุดในโลก ด้านในมีแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ถึง 14 แท็งค์ มีทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และสัตว์บก รวม ๆ แล้วเป็นสิ่งมีชีวิตกว่า 600 สายพันธุ์จำนวนกว่า 30,000 ตัว ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ จัดแสดงสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของพื้นที่ 10 แห่ง ที่อยู่รอบมหาสมุทรแปซิฟิก ภายใต้หัวข้อวงแหวนแห่งไฟ และวงแหวนแห่งชีวิต เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ว่าโลกนี้มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟประทุ ทุกสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนโลกเป็นระบบสิ่งชีวิตหนึ่งที่ต่างก็เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
7. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan)
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น (Universal Studios Japan) อาณาจักรของคนรักหนังฮอลลิวู้ดหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นและแห่งแรกของเอเชียที่รวมเครื่องเล่นสุดมันส์และธีมปาร์ค ที่จำลองมาจากฉากของภาพยนตร์ชื่อดัง เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อ วันที่ 31 มี.ค. 2001 จนปัจจุบันมีอายุครบ 12 ปี ภายในอาณาบริเวณอันกว้างขวาง แบ่งออกเป็นโซนหลัก ๆ 8 โซน และ อีก 1 โซนใหม่ The Wizarding World of Harry Potter™ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการสุดยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 57
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
8. ตลาดปลา Osaka Chuo Oroshi-uri Ichiba
ตลาดปลา Osaka Chuo Oroshi-uri Ichiba แหล่งค้าส่งปลาและผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของวลีอันโด่งดัง “กินจนพุงกาง” (Kuidaore Osaka) เพราะเป็นที่ที่ปลาสด ผัก ผลไม้และสินค้าต่าง ๆ จากทั้งในและนอกประเทศถูกส่งข้ามนํ้าข้ามทะเลมาประมูลขายให้กับพ่อค้าคนกลาง
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
9. วนอุทยานแห่งชาติ Meiji No Mori Minoh
วนอุทยานแห่งชาติแห่งโอซาก้า Meiji No Mori Minoh ที่มีทิวทัศน์สวยงาม มีพรรณไม้นานาพันธุ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ และแมลงหลากหลายชนิด ตั้งอยู่บนหุบเขาด้านทิศเหนือของเมืองมิโน จังหวัดโอซาก้า อยู่ในระดับเหนือน้ำทะเลราว 100-600 เมตร ภายในเป็นที่ตั้งของน้ำตกมิโน (Minoh) มีความสูง 33 เมตร ซึ่งเป็นจุดชมความงามที่สำคัญของวนอุทยานแห่งนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามแห่งหนึ่งในการเที่ยวญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
10. มินามิ (Minami)
ถ้าเอ่ยถึงชื่อเขตมินามิ (Minami) นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่แต่ถ้าพูดว่า นัมบะ (Namba) หรือ โดทมโบริ (Dotombori) ชินไซบาชิ (Shinsaibashisuji) แล้วคิดว่าทุกคนต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันทีเพราะชื่อที่ว่ามาล้วนตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่ามินามิทั้งสิ้น คำว่า Minami (南) หมายถึง “ทิศใต้” ในภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เป็นที่ตั้งของสถานีนัมบะ สถานีรถไฟใต้ดินที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในโอซาก้า เป็นแหล่งรวมร้านค้าและร้านอาหารเดินช้อปเดินชิมกันเพลิดเพลินสนุกสนาน
ข้อมูลนัมบะ (Namba) คลิก
ข้อมูลโดทมโบริ (Dotombori) ชินไซบาชิ (Shinsaibashisuji) คลิก
ข้อมูลจาก: หนังสือ Japan Kansai เที่ยวญี่ปุ่น ฉบับตะลุยคันไซ
เรื่องและภาพ: ตะวัน พันธ์แก้ว