ตั้งแต่มีการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปีที่ผ่านมา ก็มีนักท่องเที่ยวชาวไทยหลั่งไหลไปเที่ยวญี่ปุ่นมากมายเลยทีเดียว ซึ่งคนญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่เคร่งเรื่องมารยาทและมีธรรมเนียมในชีวิตประจำวันมากเสียหน่อย จนอาจจะมีบางครั้งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ไปทำผิดมารยาทเขาโดยไม่รู้ตัวบ้าง ตามภาษิตเขาสอนว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตาม” เพราะฉะนั้นเราจึงควรเรียนรู้มารยาทญี่ปุ่นกันเอาไว้ก่อนไปลุย ทราบเอาไว้จะได้ไม่ถูกเจ้าถิ่นมองว่าเราเป็นชนชาติเสียมารยาทเอาได้ค่ะ
เริ่มจากมารยาทบนรถไฟและการเดินทาง ซึ่งการไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะคนที่เที่ยวเองนี้ ยังไง้ ยังไงก็หนีไม่พ้นกิจกรรมขึ้นรถ (บัส) ลงรถไฟ (ใต้ดิน) เพื่อเดินทางไปไหนมาไหนแน่ๆ มารยาทการโดยสารรถเดินทางในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ!
มารยาทควรรู้ ก่อนเที่ยวญี่ปุ่น : ภาคการเดินทางภายในญี่ปุ่น
1. เมื่ออยู่ในญี่ปุ่น ขึ้นบันไดเลื่อนต้องยืนฝั่งใดฝั่งหนึ่งของบันไดเลื่อนเท่านั้น ไม่ว่าจะในห้างสรรพสินค้า ในอาคาร สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ในสถานีรถไฟหรือสนามบิน ก็จะมีมารยาทการขึ้นบันไดเลื่อนสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ คือจะต้องยืนชิดราวฝั่งใดฝั่งหนึ่งของบันไดเท่านั้น เหลือที่ว่างเอาไว้สำหรับคนที่เร่งรีบให้ไปก่อนได้ (ถ้าเรารีบก็ไปก่อนได้นะคะ แต่อย่ายืนขวางก็พอค่ะ) หากอยู่ในภูมิภาคคันโต (ภูมิภาคที่มีโตเกียว) จะยืนชิดทางซ้าย ส่วนภูมิภาคคันไซ (ภูมิภาคที่มีเกียวโต) จะยืนชิดขวา แต่ก็มีบางที่เหมือนกันที่ไม่ได้ยึดตามนี้ เอาเป็นว่าถ้าจำไม่ได้ก็ตามน้ำคนข้างหน้าไปโลด
2. ไม่ยืนหรือนั่งเกะกะขวางทางบนสถานีและประตูรถ ให้คนข้างในรถออกก่อน อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนี้เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร่งรีบมากค่ะ คนที่นี่จะตรงต่อเวลากันมาก และไม่อยากเสียเวลาโดยไม่จำเป็น (เพราะขบวนรถไฟของเขาตรงเป๊ะชนิดไม่พลาดแม้สักนาที! พลาดเป็นพลาดนะเออ!) ถ้าใครนั่งหรือยืนขวางก็จะส่งผลกระทบต่อเวลาของเขามากค่ะ นอกจากนี้เวลายืนรอรถก็ควรต่อแถว และรอให้คนข้างในออกก่อน ถ้าหากประตูรถไฟกำลังจะปิด ต่อให้มาถึงเกือบทัน ก็ห้ามแทรกตัวเข้าไปขวางในประตูนะคะ เพราะประตูจะหยุดชะงัก และอาจทำให้รถไฟเลท ส่งผลต่อเวลาการเดินทางของคนอื่นแน่นอนค่ะ
3. ไม่ทานอาหาร ไม่แต่งหน้า ไม่ถ่ายรูป ไม่คุยเสียงดัง ไม่คุยโทรศัพท์ ไม่สูบบุหรี่ บนรถไฟ เมื่อขึ้นมาถึงขบวนแล้ว คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่ชอบความสงบ จึงไม่มีการพูดคุยกันบนรถไฟ คนญี่ปุ่นแต่ละคนขึ้นมาบนขบวนแล้วก็จะนั่งเงียบๆ ฟังเพลงบ้าง อ่านหนังสือบ้าง เพราะฉะนั้นเราไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ไม่ควรไปรบกวนความสงบของเขาค่ะ งดทานอาหารบนรถไฟใต้ดิน งดแต่งหน้า ถ่ายรูป พูดคุยเสียงดัง และไม่คุยโทรศัพท์ด้วยค่ะ (แต่ถ้าแค่เล่นเน็ตหรือส่ง SMS ยังได้นะคะ แต่ต้องปิดเสียงไว้) หากอยู่บนรถไฟธรรมดาแล้วมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เสียงจริงๆ ก็ต้องลองเดินหาโซนใช้เสียงท้ายขบวนดูค่ะ
เรื่องอาหารการกินระหว่างเดินทาง หากเป็นรถไฟชินคันเซนหรือรถไฟสายออกนอกเมืองสามารถทานได้ (สังเกตจากโต๊ะพับบริเวณพนักพิง หรือมีคนขายอาหารบนรถไฟเลย ถ้าเห็นแบบนี้ แสดงว่ากินได้ชัวร์) แต่รถไฟใต้ดิน หรือรถไฟที่มีระยะทางสั้นๆ ห้ามทานนะจ๊ะ
ส่วนเรื่องบุหรี่ ที่สถานีมีห้องสูบบุหรี่ให้อยู่แล้วนะคะ ต้องสูบให้เสร็จก่อนจะขึ้นรถไฟ พอขึ้นไปบนโบกี้แล้วห้ามสูบเหมือนบ้านเราเลยค่ะ
4. ต้องเหลือที่นั่งพิเศษ (มีป้ายบอกหรือสีที่นั่งที่แตกต่างจากปกติ) เอาไว้สำหรับคนท้องหรือคนชรา ที่ญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมลุกให้นั่ง (บางครั้งถ้ามีคนลุกให้แล้วคนญี่ปุ่นจะรู้สึกเหมือนโดนหาว่าแก่ เลยไม่นั่งซะงั้น) เพราะเขามีการกันที่นั่งพิเศษเอาไว้สำหรับผู้มีครรภ์ ผู้ปกครองที่มีเด็กทารกเดินทางด้วย ผู้พิการ คนชรา และผู้มีอาการป่วยทางหัวใจ (ไม่ใช่อกหัก!) ค่ะ ปกติคนทั่วไปจะไม่ค่อยไปนั่งที่ตรงนั้น เพื่อเหลือที่เอาไว้ให้บุคคลเหล่านี้ค่ะ แต่ถ้าเผลอนั่งไปแล้ว มีคนต้องการก็อย่าลืมลุกให้ล่ะ อ้อ บริเวณที่นั่งพิเศษนี้ต้องปิดโทรศัพท์มือถือด้วยนะคะ (โซนนี้แค่ปิดเสียงไม่ได้ เพราะอาจกระทบต่อผู้ป่วยโรคหัวใจค่ะ)
5. หนุ่มๆ จงระวัง! บางช่วงเวลาจะมีโบกี้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น ช่วงเวลาเร่งด่วนในตัวเมือง จะมีรถไฟขบวนพิเศษมีโบกี้สำหรับบริการสุภาพสตรีเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อลดการก่ออาชญากรรมหรือล่วงละเมิดทางเพศสตรี เพราะฉะนั้นหนุ่มๆ ที่จะเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก็ต้องสังเกตป้าย Woman Only 女性専用車両กับสีชมพูของโบกี้ให้ดี ถ้าเข้าผิดมีเงิบแน่ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นมารยาท “เบื้องต้น” สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหนในการเที่ยวญี่ปุ่น ตอนต่อไป DPlus Guide จะนำเสนอบทความ “มารยาทควรรู้ ก่อนเที่ยวญี่ปุ่น” ภาคต่อๆ ไปในสถานการณ์ต่างๆ อีก อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ
เรียบเรียงโดย: ทีมงาน DPlus Guide | ข้อมูลจาก: www.tokyometro.jp/en/ride/manners และ www.wattention.com/archives/transportation-etiquette-in-tokyo