สวนไคระคุเอ็น (Kairakuen)

ติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ภูมิภาคคันโต (Kanto)

สวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) สร้างขึ้นในปี 1841 โดยโทคุงะวะ นาริอากิ (Tokugawa Nariaki) ไดเมียวปกครองเมืองในขณะนั้น สวนญี่ปุ่นแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเปิดเป็นสวนสาธารณะให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าชมได้ ตามความหมายของชื่อสวนที่แปลว่า “สวนที่ทุกคนมาเพลิดเพลินด้วยกัน” ต่างจากสวนเคนโระคุเอ็น (Kenrokuen) และสวนโคระคุเอ็น (Korakuen) ซึ่งทั้งสองสวนนั้นสร้างขึ้นสำหรับไดเมียวและชนชั้นปกครองเท่านั้น

แม้สวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) จะเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปีแต่ช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดและเป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปตลอดเดือนมีนาคม ต้นพลัมที่มีมากกว่า 3,000 ต้น  จากร้อยกว่าสายพันธุ์จะพากันออกดอกอวดสีสันทั้งสีขาว ชมพูและแดง ซึ่งทุกปีภายในสวนญี่ปุ่นแห่งนี้จะมีการจัดงานเทศกาล Mito Plum Festival หรือ เทศกาลชมดอกพลัมมิโตะ ในช่วงที่ดอกพลัมบานสะพรั่ง

นอกจากนี้ภายในสวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) นี้ยังมีดงกอไผ่, ป่าต้นซีดาร์ และตึกโคบุนเท (Kobuntei) ตึกไม้สไตล์ญี่ปุ่นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในอาคาร จากชั้นบนสุดของตึกโคบุนเทสามารถชมความงามของสวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) และสระน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ได้

สวนญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีภูมิสถาปัตย์งดงามที่สุด 3 แห่งได้แก่ สวนโคระคุเอ็น (Korakuen) เมืองโอคายามา, สวนเคนโระคุเอ็น เมืองคานาซาวะ, และสวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) เมืองมิโตะ (Mito)

สวนไคระคุเอ็น (Kairakuen) 1 ใน 3 ของสวนสวยสุดในญี่ปุ่น ที่เมืองมิโตะ (Mito)
[info-l]เมืองมิโตะ (Mito) จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ภูมิภาคคันโต (Kanto)
[info-c]20 ก.พ. – ก.ย. เปิด 06:00-19:00 น., ต.ค. – 19 ก.พ. เปิด 07:00 – 18:00 น
[info-f]สวนฟรี, Kobuntei Building 200 เยน
[info-w]www.koen.pref.ibaraki.jp/park/kairakuen01.html
[info-d]จากตัวเมือง Mito เมืองหลักของจังหวัด Ibaraki นั่งรถไฟ JR ที่สถานี Mito สาย JR Joban ไปลงที่สถานี Kairakuen (ถัดไป 1 สถานี) หรือให้นั่งรถบัสจากหน้าสถานี JR Mito มาลงยังสวนได้เลย

ข้อมูลจาก หนังสือ BEST OF JAPAN | ที่มาภาพ: Ibaraki Prefectural Tourism & Local Products Association

เราเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นเกือบทุกภูมิภาคในหลากหลายฤดู และประเทศอื่น ๆ เช่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น รวมทั้งประเทศในโซนยุโรป เพื่อถ่ายภาพรวบรวมข้อมูล ออกมาเป็นผลงานในรูปแบบหนังสือ และสื่อสาระด้านท่องเที่ยว & ไลฟ์สไตล์ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และภาคภูมิใจของพวกเรา DPlus Guide Team