เที่ยวฮ่องกงให้ถึงที่ ต้องกินอาหารฮ่องกง! และจะยิ่งถึงรสฮ่องกงยิ่งขึ้นเมื่อได้กินแบบคนฮ่องกงขนานแท้! จะมีอะไรดีไปกว่าการรับรู้บรรยากาศการใช้ชีวิตของชาวฮ่องกงแบบถึงที่ด้วยการไปนั่งกินตามร้านให้เหมือนกับเราเป็นคนฮ่องกงไปเลย!
ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าชาวฮ่องกงเป็นประเทศที่พิถีพิถันเรื่องอาหารมากค่ะ แม้แต่วิธีการกินอาหารแต่ละมื้อก็จะมีธรรมเนียมของเขาเอง ซึ่งถ้าเราไปนั่งกินร่วมโต๊ะกับชาวฮ่องกงก็ควรจะรู้ไว้ก่อน เพื่อที่จะไม่เกิดอาการ culture shock เมื่อไปถึงนั่นเองค่ะ
20 ข้อควรรู้ กับการกินอาหารที่ฮ่องกง รู้ไว้ก่อนไป จะได้ไม่ Shock!
– คนฮ่องกงจะรับประทานอาหารจากถ้วยเล็ก ส่วนจานจะใช้วางเศษอาหารค่ะ
– คนฮ่องกงใช้ตะเกียบและช้อนกระเบื้องเป็นอุปกรณ์หลักในการรับประทาน ไม่เว้นแม้แต่เมนูข้าวหน้าต่างๆ จึงอาจสร้างความยากลำบากให้คนไทยที่มีวัฒนธรรมใช้ช้อนส้อมเป็นอย่างยิ่ง แต่เราสามารถขอช้อนส้อมจากทางร้านได้นะคะ
– บางร้านอาจแจกช้อนโลหะด้ามยาวมาให้อีกคนละคัน เพื่อใช้เป็นช้อนกลางส่วนตัว หรืออาจแจกตะเกียบคนละ 2 คู่ มีสีต่างกันไป คู่หนึ่งคือตะเกียบกลางในการคีบอาหารใส่จานของเรา อีกคู่หนึ่งใช้คีบอาหารเข้าปาก (บางร้านอาจแจกตะเกียบต่างสีเพื่อใช้เป็นตะเกียบกลางเพียง 1-2 คู่ให้ใช้ร่วมกันทั้งโต๊ะ)
– ในกรณีที่ไม่มีตะเกียบกลาง คนฮ่องกงจะใช้ปลายตะเกียบฝั่งด้านมือจับ คีบอาหารจากจานกลางใส่ในจานของตน หรือคีบให้ผู้อื่นแทน
– ร้านห้องแถวมักเสิร์ฟน้ำร้อนหรือชาจีนร้อนใส่แก้วพลาสติกให้ลูกค้า ส่วนใหญ่จะไม่คิดเงิน เราสามารถดื่มได้ แต่คนฮ่องกงมักจะใช้เพื่อล้างช้อนหรือตะเกียบด้วยการนำลงไปแช่ในแก้ว หากมากันหลายคนก็จะกันไว้ 1 แก้วเพื่อใช้ล้าง
– ก่อนสั่งอาหาร พนักงานจะให้ออร์เดอร์ชนิดของนํ้าชาที่ต้องการก่อนและเสิร์ฟมาให้ในกา (บางร้านเสิร์ฟพร้อมกานํ้าร้อนเปล่าอีก 1 กา) หากไม่ใช่ร้านหรูหรามากจะวางชามเปล่าขนาดใหญ่ให้ 1 ใบบนโต๊ะด้วย เพื่อให้เราใช้เทนํ้าทิ้งจากการลวกถ้วย ช้อน ตะเกียบของเราก่อนนำไปใช้ในการรับประทาน
– ร้านห้องแถวมักมีขนาดเล็ก ตั้งโต๊ะค่อนข้างเบียดเสียด และเป็นเรื่องปกติที่ต้องแชร์โต๊ะร่วมกับผู้อื่นหากเรามาจำนวนไม่มาก
– สำหรับการสั่งอาหารโดยเฉพาะเมนูติ่มซำ มักจะสั่ง (ติ๊ก) จากเมนูกระดาษแผ่นเดียวที่วางเสียบไว้บนโต๊ะ บางร้านอาจมีเพียงเมนูภาษาจีน บางร้านอาจเป็นเมนูภาษาอังกฤษพร้อมรูปภาพ หากเป็นร้านติ่มซำโบราณก็ไม่ต้องสั่ง แต่จะมีพนักงานเข็นรถเข็นติ่มซำมาให้เลือกถึงโต๊ะ
– ร้านส่วนใหญ่ที่ขายเมนูเนื้อสัตว์ติดกระดูก เช่น เป็ดย่าง ห่านย่าง ฯลฯ จะเสิร์ฟแบบสับติดกระดูกมาให้ ไม่มีการเลาะกระดูกให้เหมือนเมืองไทย
– หากมีของเหลือจากการรับประทาน เช่น กระดูก เปลือกกุ้ง ฯลฯ คนฮ่องกงมักวางกองไว้บนโต๊ะข้างๆ จานของตนซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับคนไทยอาจเป็นภาพที่ดูไม่งามนัก
– ร้านอาหารส่วนใหญ่จะไม่มีกระดาษทิชชู่ให้บนโต๊ะ เราต้องพกไปเอง หรือบางร้านอาจมีขายในราคาห่อละ HK$3-5
– ร้านอาหารในฮ่องกง จะไม่เสิร์ฟนํ้าแข็งเปล่าหรือนํ้าใส่นํ้าแข็งเหมือนเมืองไทย เพราะคนฮ่องกงมีความเชื่อว่า ดื่มนํ้าที่อุณหภูมิห้องดีต่อสุขภาพกว่าดื่มนํ้าเย็นแต่หากเป็นเครื่องดื่มเย็นที่ต้องใส่นํ้าแข็งเช่น ชาเย็น กาแฟเย็น ฯลฯ ร้านส่วนใหญ่มักจะคิดราคาเพิ่มจากเครื่องดื่มร้อนประมาณ HK$2-5
– อาหารในฮ่องกงมักมีขนาดใหญ่มาก แม้แต่อาหารจานเดียว เช่น ข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ เราสามารถสั่งมาแบ่งกันทานได้ อาจขอถ้วยเปล่าและช้อนตะเกียบมาเพิ่ม แต่ต้องดูให้ดีบางร้านอาจคิดราคาขั้นตํ่าที่ต้องสั่งเป็นราคาต่อคน ซึ่งมักเขียนบอกไว้ที่เมนู
– หากรับประทานเหลือ เราสามารถขอให้พนักงานห่ออาหารกลับบ้านได้ (ไม่ต้องอายค่ะ เรื่องปกติไม่ว่าจะเป็นร้านห้องแถวหรือร้านหรูหราในโรงแรม) แต่ตามร้านห้องแถวหรือภัตตาคารจีนมักจะคิดค่ากล่องและถุงเพิ่ม HK$1-2
– คนฮ่องกงไม่ซีเรียสเรื่องการให้ทิปเหมือนคนในแถบยุโรปหรืออเมริกา เพราะตามภัตตาคารมักคิด service charge ไว้แล้ว แต่ถ้าพนักงานบริการถูกใจก็ให้ทิปเพิ่มกี่ % ก็แล้วแต่ความพอใจ ร้านอาหารฝรั่งบางร้าน โดยเฉพาะร้านเก๋ๆ ฮิปๆ อาจไม่คิด service charge และมักยํ้าในเมนูว่า ควรให้ทิป ส่วนร้านห้องแถวต่างๆ ไม่จำเป็นต้องทิป
– ภัตตาคารหรือร้านระดับดีขึ้นมาหน่อย จะคิด service charge 10% แต่ไม่มี vat เพราะฮ่องกงเป็นเมืองปลอดภาษี
– เมื่อเราสั่งอาหารในร้านห้องแถว พนักงานจะจดออเดอร์ให้พ่อครัว และเขียนตัวเลขราคาอาหารใส่กระดาษสีขาวแผ่นเล็กๆ เสียบไว้ให้เราบนโต๊ะ อย่าทำหาย เพราะต้องนำไปใช้เวลาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ (ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่หน้าประตู) ก่อนออกจากร้าน
– นอกจากนี้ คนฮ่องกงยังทานติ่มซำกันเฉพาะมื้อเช้าและมื้อกลางวัน อาจเลยไปถึงมื้อนํ้าชา แต่ส่วนใหญ่จะไม่ทานในมื้อเย็น จึงไม่ค่อยเห็นภัตตาคารดังๆ ขายในช่วงเวลาดังกล่าว ยกเว้นร้านติ่มซำเฉพาะทางจริงๆ เช่น Tim Ho Wan เป็นต้น
– หากต้องการทานติ่มซำตามภัตตาคารระดับกลางที่เปิดขายตั้งแต่เช้าจนถึงมื้อบ่าย แนะนำให้ทานก่อน 10:30 น. หรือหลัง 14:30 น. (นับจากเวลาเริ่มสั่งอาหาร) เพราะจะถูกกว่ามื้อกลางวันในช่วงเที่ยง ส่วนติ่มซำในภัตตาคารหรูหรา เช่น ตามโรงแรม มักเปิดสายราว 11:00 น. และขายมื้อกลางวันมื้อเดียว
– คนฮ่องกงชอบทานอาหารนอกบ้าน หากเป็นภัตตาคาร หรือร้านอาหารในระดับดีขึ้นมาหน่อย เพราะฉะนั้นจึงควรโทรจองโต๊ะก่อนทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลารอคิว หากโชคร้ายโต๊ะอาจถูกจองจนเต็มหมดค่ะ
รู้อย่างนี้แล้ว ก็ไปเที่ยว ไปกิน ที่ฮ่องกงกันได้ชิลล์ๆ ไม่ต้องประหม่าว่าจะทำอะไรผิดธรรมเนียมอีกต่อไป
ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปกินที่ไหน ทีมงาน DPlus Guide ขอแนะนำคัมภีร์ตะลุยกินรอบฮ่องกงตามรอยพี่แป๋ว เจ้าของเพจ Eat Like 852 – ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง ผู้อยู่กับฮ่องกง กินในฮ่องกง ผ่านหนังสือ Eat Like 852 HONG KONG เล่มนี้เลย
ช้อปหนังสือ “Eat Like 852 HONG KONG”
ที่ : www.dplusshop.com/product/176/eat-like-852-hong-kong
เรื่องและภาพ: พี่แป๋ว เพจ Eat Like 852 – ตะลุยกิน เที่ยวฮ่องกง โดยคนไทยในฮ่องกง ผู้เขียน Eat Like 852 HONG KONG