บทความนี้ขอพาไปชม พิพิธภัณฑ์จิ๋ว Stanley MiniVenture พิพิธภัณฑ์เมืองจิ๋วแห่งแรกในประเทศไทย! ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้า Gateway Ekamai (เกตเวย์ เอกมัย) ติดรถไฟฟ้า BTS เอกมัย อีกแหล่งเที่ยวกรุงเทพฯ ที่ควรไปเยือน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะรวบรวมตุ๊กตาตัวจิ๋ว สเกล 1:87 (แปลว่า สัดส่วนตุ๊กตามีขนาดเล็กกว่าของจริงถึง 87 เท่า!) มาจัดเรียงเป็นเมืองจำลองจิ๋วๆ แต่กินพื้นที่กว้างใหญ่ให้พวกเราสวมบทบาทเป็นคนยักษ์เดินเที่ยวชมเมืองของเหล่าคนจิ๋วในสไตล์แตกต่างกันถึง 11 โซน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คนรักการถ่ายภาพและคนที่ชอบงานประดิษฐ์อะไรมุ้งมิ้งๆ จะต้องถูกใจ และสำหรับครอบครัวที่จะพาคุณหนูๆ มาชมเมืองจิ๋ว รับพลังสร้างสรรค์และไอเดียหอบใหญ่กลับบ้าน ก็จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน!
ด้านใน พิพิธภัณฑ์จิ๋ว Stanley MiniVenture จะมีทั้งหมด 11 โซน (และโซน BONUS TABLE อีก 2 โซน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา) ทีมงาน DPlus Guide ได้เก็บภาพด้านในและรีวิวแต่ละโซนให้ชมกันแล้ว ข้างในจะเจ๋งแค่ไหน ตามมาดูกันเลย!
เมื่อมาถึงชั้น 2 ของศูนย์การค้า Gateway Ekamai แล้ว จะต้องมาซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ด้านนอก บริเวณริมทางเดินก่อนนะ เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เดินตามสติกเกอร์รูปรางรถไฟบนพื้น เดินลอดตู้โดยสารรถไฟที่จะพาเราเข้าสู่พิพิธภัณฑ์จิ๋วกันเลย!
ทันทีที่เข้ามาถึง จะมีภาพตัวละครทั้งหมดใน Stanley MiniVenture มาต้อนรับเรา มีเนื้อเรื่องจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของตัว Stanley (ละครหลัก) ให้อ่าน ซึ่งตลอดทางในพิพิธภัณฑ์จิ๋ว จะมีป้ายที่บอกเล่าเนื้อเรื่องการเดินทางไปยังโซนต่างๆ ของเหล่าตัวละครให้เราติดตามกันด้วย เนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อใช้จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์จิ๋วแห่งนี้เท่านั้น ไม่มีที่ไหนมาก่อน ถ้าอยากรู้ต้องมาดูกันนะ!
เมื่อพร้อมแล้วก็ตามไปดูเมืองจิ๋วทั้ง 11 โซนกันเลย!
โซนที่ 1 Resource Town
โซนแรกที่เมื่อเข้ามาถึงจะเห็นเลย เป็นเมืองแห่งทรัพยากรต้นกำเนิดของชีวิต เราจะได้เห็นเมืองจำลองที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง เพราะเป็นโต๊ะที่รวบรวมทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นมาอยู่ในที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนที่จำลองมาจาก Hoover Dam เขื่อนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นที่สุดของวิศวกรรมโลก และเหมืองแร่ดีบุกที่แปรรูปเป็นของใช้จำพวก กระป๋อง จาน ชาม ฯลฯ รวมทั้งโซนก่อสร้างที่จำลองให้เห็นถึงขั้นตอนการทำงานของช่างก่อสร้าง และเหมืองแร่ทองคำ
โซนที่ 2 Organic Farm
โซนนี้จะจัดตุ๊กตาจิ๋วเป็นเมืองแห่งเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ครั้งแรกที่เห็นเมืองนี้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและธรรมชาติของโต๊ะแห่งนี้เพราะว่าเป็นโต๊ะที่มีสีเขียวชอุ่มมากที่สุด อุดมไปด้วยต้นไม้และหญ้าเขียวขจี การใช้ชีวิตของคนในเมืองนี้เป็นไปอย่างเรียบง่าย และพึ่งพาธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกสวนผัก ผลไม้ ฟาร์มสัตว์ และการผลิตไฟฟ้าจากแรงลม ถือว่าเป็นไฮไลท์ของโต๊ะนี้ เพราะมีกังหันลมที่ทำงานด้วยฝีมือช่างไทยด้วย
โซนที่ 3 Residential and Historical Town
เมืองแห่งเรื่องราวและประวัติศาสตร์ จำลองภาพของเมืองในอเมริกาและยุโรป ฝั่งแรกที่เป็นอเมริกานั้น เน้นที่ความแข็งแรงและคอนเซปต์การใช้งาน ดีไซน์จะออกมาเรียบง่ายและไม่หวือหวามากนัก
ใกล้ๆ กันก็มีโซนเมืองจำลองสไตล์ยุโรปที่เน้นเรื่องดีไซน์และความวิจิตรงดงาม สังเกตได้จากการออกแบบหน้าต่าง ประตู และผังเมืองที่ให้บรรยากาศหรูหราปนโรแมนติกเหมือนเราได้ไปเที่ยวยุโรป
เมืองจำลองทั้งสองถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญของโต๊ะนี้
โซนที่ 4 Transportation and Entertainment
เมืองที่ไม่หยุดนิ่งและแหล่งบันเทิง มีรถไฟเป็นพระเอก ที่โซนนี้เราจะได้เห็นไฮไลท์ “Roundhouse” ซึ่งเป็นโรงเก็บรถไฟทรงโค้ง ตรงกลางจะมีแท่นหมุน สำหรับสับเปลี่ยนเส้นทางรถไฟ ซึ่งหาชมยากมากแม้กระทั่งของจริง ในประเทศไทยตอนนี้มีแค่ที่เดียวอยู่ที่ จ.ลำปาง
เมื่อมาถึงฝั่งเมืองที่มีแหล่งบันเทิงที่จะได้เห็น สวนสนุก คอนเสิร์ต และไฮไลท์อีกอย่างหนึ่ง คือสนามบอลขนาดใหญ่ที่ทางพิพิธภัณฑ์ย่อส่วนมาให้คุณได้ชมกัน
โซนที่ 5 Desert
เมืองแห่งทะเลทรายอันร้อนระอุ ที่นี่เราจะได้เห็นการเดินทางของคาราวานพ่อค้ากลางทะเลทรายเป็นมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปกัน มองเผินๆ เหมือนเราได้ไปเที่ยวทะเลทรายจริงๆ กันเลย
ที่นี่มีไฮไลท์ที่สำคัญของทะเลทรายที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ “โอเอซิส” ใกล้ๆ สุดโซนนี้ยังมีสวนสัตว์แบบ “ไนท์ซาฟารี” ที่ดับไฟเอาไว้ให้เราค้นหาว่าสวนสัตว์จะซ่อน สัตว์อะไรเอาไว้ ที่นี่จะได้พบสัตว์ต่างๆ เช่น ม้าลาย ฮิปโปโปเตมัส ยีราฟ หมีโคอาล่า ฯลฯ และมิวเซียมไดโนเสาร์ที่รวบรวมโมเดลไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์
โซนที่ 6 Beach
เมืองแห่งห้องทะเล เราจะได้ชมภาพของการพักผ่อนหย่อนใจ หาดทราย ทะเลสีมรกต ไฮไลท์ของโต๊ะนี้คือเรือเก่าแก่ที่จมอยู่ใต้ทะเลลึกที่ให้คุณมาลองดูข้างในว่ามีสมบัติซ่อนอยู่หรือเปล่า ถ้ามองดีๆ อาจจะได้เจอโจรสลัดก็เป็นได้
โซนที่ 7 Cave
ถ้ำกาลเวลา เราจะได้เห็นสิ่งที่แปลกพิสดาร จินตนาการสุดเหวี่ยง อะไรที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเจอ ก็สามารถเจอได้ที่ถ้ำแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ต้นถั่วและพีชพรรณยักษ์ที่ประหนึ่งหลุดมาจากแฟรี่เทล ไดโนเสาร์ สัตว์ยุคกำเนิดโลก ค้างคาวที่นอนห้อยหัว มังกรพ่นไฟ ภาพของการทำรังนกของนกนางแอ่น สุดท้ายกับมนุษย์ถ้ำยุคหิน เรียกได้ว่าทุกอย่างคือไฮไลท์ของโต๊ะนี้
โซนที่ 8 Snow Port
เมืองท่าสีขาวที่มีหิมะปกคลุมทั่ว จะได้เห็นความน่ารักของสัตว์ขั้วโลก เช่น เพนกวิน หมีโพลาร์ นอกจากนั้นยังมีกระเช้าลอยฟ้าที่ขยับได้จริง พร้อมกันนี้ยังจะได้เห็นการทำงานของเครนยกคอนเทนเนอร์ที่ทำงานเสมือนจริงร่วมกับเรือขนสินค้าขนาดใหญ่
โซนที่ 9 Central Business District
ย่านธุรกิจหมื่นล้าน… ที่นี่ทางพิพิธภัณฑ์เขาได้จำลองตึกระฟ้าและตึกที่โด่งดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Chrysler Building, Oakland Tower, Empire State, World Financial Center, MetLife Building ฯลฯ และตึกอื่นๆ เราจะได้เห็นภาพความวุ่นวายของตัวเมือง ละความอู้ฟู้ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาทำงานหาเลี้ยงชีพที่นี่ นักธุรกิจพันล้านที่จัดปาร์ตี้ อลังการบนดาดฟ้า
โซนที่ 10 Gift Shop
ร้านขายของฝาก จะมีโมเดลเครื่องบินประเภทต่างๆ และ ของเล่นอุปกรณ์ทำสงครามโบราณ เช่น เครื่องยิงหิน หากคุณหนูๆ เที่ยวในเมืองจำลองขนาดจิ๋วเสร็จแล้ว คงอยากสร้างเมืองจำลองเป็นของตัวเองบ้าง ทางพิพิธภัณฑ์ก็มีสินค้าพร้อมให้บริการ
โซนที่ 11 Painting
ห้องระบายสีตุ๊กตา (Workshop) โซนนี้จะต้องเสียค่าเข้าเพิ่มอีก 100 บาท
และโซน BONUS TABLE ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
BONUS TABLE 1 Airport
สนามบินไร้ขอบฟ้า อลังการยิ่งใหญ่ เพราะจะได้เห็นเครื่องบินกว่า 30 ลำที่เทคออฟและแลนดิ้งได้อย่างสมจริงที่สุด มีโชว์เครื่องบิน และระบบการจัดการโอเปอเรชั่นของสนามบินอย่างละเอียดยิบ ไม่ผิดหวังแน่นอน
BONUS TABLE 2 Very Thai
เมืองไท๊ยไทย โซนที่จะรวมศิลปะและความเป็นไทยเอาไว้ในโต๊ะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ยักษ์วัดแจ้ง ความงดงามของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตลาดสด ศาลาเฉลิมไทย หัวลำโพง เยาวราช แผงลอยขายของ ฯลฯ สารพัดความเป็นไทยรวมไปถึงบ้านเมืองของไทยสมัยโบราณและไฮไลท์ที่สุด คือ โมเดลรถรางโบราณ ที่นำมาสร้างให้ขับเคลื่อนได้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ให้ผู้เข้าชมได้ยลโฉมกันอีกครั้ง รับรองได้ว่ามาถึงโต๊ะนี่แล้วยิ้มไม่หุบ เพราะมีสิ่งของที่เราคุ้นกันมากมาย
จบไปอย่างอิ่มเอม สำหรับรีวิว พิพิธภัณฑ์จิ๋ว Stanley MiniVenture แบบละเอียดครบทุกโซนทุกมุมโดยทีมงาน DPlus Guide ซึ่งขอบอกเลยว่าพิพิธภัณฑ์จิ๋วนี้ ผลงานเล็กจิ๋ว แต่ความประทับใจไม่จิ๋วเลย สายถ่ายรูปมาถ่ายภาพเมืองจิ๋วก็ดี วัยรุ่นจะมาเดินชิลล์ก็ได้ หรือคุณพ่อคุณแม่จะพาน้องๆ หนูๆ มาท่องเที่ยว เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวในเมืองจิ๋วสุดกว้างใหญ่ ก็แสนจะเป็นประโยชน์
แต่ขอแนะนำทิ้งท้ายสักหน่อย ว่าผลงานที่วางประดับในพิพิธภัณฑ์จิ๋วแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นงานละเอียดมาก ควรค่อยๆ ชม อย่ารีบเดิน เพราะอาจจะพลาดจุดเล็กๆ ที่ทีมงานผู้สร้างซ่อนเอาไว้ไป ทางที่ดีควรใช้เวลาเที่ยวชมอย่างต่ำ 40 นาที ถึง 1 ชม. กันไปเลย!
เที่ยวชม Stanley MiniVenture พิพิธภัณฑ์จิ๋วแห่งแรกในประเทศไทย ณ เกตเวย์ เอกมัย
[info-t] ทุกวัน 10:00 – 20:00 น.
[info-d] ชั้น 2 ศูนย์การค้า Gateway Ekamai สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย
[info-p]
Stanley Miniventure | ราคา |
---|---|
ผู้ใหญ่ | 650 บาท |
เด็กที่มีความสูง 90-130 ซ.ม. | 450 บาท |
เด็กที่ความสูงน้อยกว่า 90 ซ.ม. | ฟรี |
[info-w] https://stanleyminiventure.com, www.facebook.com/StanleyMiniVenture