เจแปนแอลป์ (Japan Alps) เป็นชื่อเรียกเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ทอดผ่านเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น เทือกเขาที่ว่านี้มีลักษณะคล้ายกับเทือกเขาแอลป์ในยุโรป จึงได้รับการการขนานนามว่า เจแปนแอลป์ และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Japan Alps National Park หรือ Chubu Sangaku National Park คลอบคลุมพื้นที่มากถึง 6 จังหวัดในภูมิภาค Chubu คือ Niigata,Toyama, Nagano, Gifu, Yamanashi และ Shizuoka เจแปนแอลป์แบ่งเป็น 3 ช่วงหลักๆ คือ แอลป์ตอนเหนือ (Northern Alps) รู้จักในกันชื่อ Hida Mountains คลอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดคือ Nagano, Toyama, Gifu และส่วนหนึ่งเชื่อมไปถึง Niigata ถัดมาคือแอลป์ตอนกลาง (Central Alps) เทือกเขาบริเวณนี้เรียกกันว่า Kiso Mountains พาดผ่านพื้นที่ของจังหวัด Nagano และสุดท้ายคือแอลป์ตอนใต้ (Southern Alps) หรือที่เรียกกันว่า Akaishi Mountains กินพื้นที่บางส่วนของจังหวัด Nagano ไปจนถึงบางส่วนของจังหวัด Yamanashi และ Shizuoka
เนื่องจากเทือกเขาเจแปนแอลป์แผ่กว้างครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด และตามแนวเทือกเขานี้ก็มีหลายเส้นทางแยกไปยังเมืองสำคัญของแต่ละจังหวัดได้ หลายเมืองเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามและยิ่งใหญ่ของ เจแปนแอลป์ได้อย่างชัดเจน แต่เส้นทางที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างล้นหลามก็คือเส้นทางเจแปนแอลป์ทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือ เป็นเส้นทางที่ทะลุผ่านภูเขาทาเตยามะที่ความสูง 2,450 เมตรจากระดับน้ำทะเล (แต่ยอดที่สูงที่สุดคือ 3,015 เมตร) เส้นทางแอลป์นี้ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของญี่ปุ่นเชื่อมระหว่างเมือง Toyama จังหวัด Toyama และเมือง Omachi จังหวัด Nagano
สำหรับการท่องเที่ยวตามเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route นี้ถือว่าค่อนข้างสะดวกมากทีเดียว เพราะมีบริการขนส่งสาธารณะหลายรูปแบบตลอดเส้นทาง ทั้งเคเบิลคาร์, รถบัส,รถกระเช้า, รถบัสไฟฟ้าลอดผ่านอุโมงค์ ระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติของพืชพันธุ์ต่างๆ ที่เติบโตอยู่ในบริเวณนี้ ที่สำคัญคือมีจุดท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศสวยงาม น่าทึ่งแตกต่างกันไปตลอดเส้นทาง จุดท่องเที่ยวที่สำคัญมีดังนี้
Bijodaira
หรือที่ราบบิโจไดระเป็นจุดท่องเที่ยวจุดแรกบนเส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route
(จากสถานี Tateyama นั่ง cable car ประมาณ 7 นาทีก็จะถึง ป้าย Bijodaira) ด้านหน้าสถานีมีต้นสนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า ต้นสนหญิงงาม (Bijosugi หรือ Beautiful Woman Cedar) ซึ่งมีตำนานว่าเป็นต้นสนที่เจ้าหญิงองค์หนึ่งได้พบระหว่างทางและตั้งจิตอธิษฐานขอให้พบคู่หมั้น และสุดท้ายคำอธิษฐานก็เป็นจริง ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน ต้นสนนั้นจึงถูกเรียกว่า บิโจสุงิ
Midagahara
หรือทุ่งมิดางะฮาระ เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ที่ความสูงราว 2,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลนับเป็นพื้นที่ลุ่มมีน้ำขังขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น บริเวณทุ่งแห่งนี้มีเส้นทางเดินเที่ยวชมธรรมชาติ หรือเส้นทางเดินเที่ยวบนทางไม้ (Boardwalk) อยู่ด้วยกัน 3 เส้นทางใหญ่ๆ
Tengudaira
หรือทุ่งราบเท็นงุไดระ บริเวณนี้มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เชื่อมต่อไปยังมูโรโด (สถานี/ป้ายถัดไป)ได้ หากใครมีเวลาและกำลังขาดีเยี่ยม ทางเดินเส้นนี้ก็น่าเดินเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ไม่น้อย จะได้เห็นทุ่งกว้างโอบล้อมด้วยเทือกเขา
Murodo
หรือมูโรโด ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์หลักของเส้นทางเจแปนแอลป์สายนี้ สถานที่เด่นๆ ในบริเวณนี้ได้แก่ จุดชมวิวบริเวณบึงมิกุริกะ (Mikurigaike)ที่มีผิวน้ำสีน้ำเงินเข้มหรือสีเขียวมรกต, บ่อแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติมิกุริกะ-อิเกะ ที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น, อนุสรณ์ไว้อาลัยนักไต่เขาผู้เคราะห์ร้ายจากภัยพิบัติ (Memorial to lost mountaineers), เทวรูปแกะสลัก, บ่อตาน้ำแร่ธรรมชาติ เป็นต้น และที่นี่มีโรงแรมเปิดบริการด้วยเช่นกัน
บริเวณนี้ยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ 3 เส้นทางด้วยกันคือ คือเส้นทางไป-กลับบึงมิกุริกะ ระยะทาง 600 ม. อีกเส้นคือรอบบึงมิกุริกะ ระยะทางราว 1.7 กม. และเส้นทางที่ไปวกกลับที่ Raichozawa ระยะทางประมาณ 2.4 กม. ที่นี่จึงเป็นอีกแห่งที่จะเห็นนัก trekking ชาวญี่ปุ่นแบกเป้ ถือไม้เท้าประคองเดินอยู่เป็นระยะๆอีกจุดไฮไลท์ของเส้นทางระหว่างทุ่งราบ Tengudaira กับ Murodo ก็คือกำแพงหิมะ Yuki-no-Otani อันโด่งดัง ซึ่งจะเปิดเส้นทางประมาณกลางเดือน เม.ย-ส.ค. (ช่วงที่มีกำแพงหิมะสูงคือ กลาง เม.ย.-พ.ค.จากนั้นหิมะจะเริ่มละลายลงเรื่อยๆ)
Diakanbo
หรือไดกันโบ เป็นสถานีหนึ่งที่จะต้องเปลี่ยนพาหนะเพื่อจะไปยังจุดต่อไปตามเส้นทางเจแปนแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ แต่อย่าเพิ่งผ่านเลยนะคะ เพราะที่ด้านหน้าสถานีนี้มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพเทือกเขาเจแปนแอลป์, เขื่อนคุโรเบะและเส้นทางรถกระเช้าได้อย่างชัดเจน (ถ้าไม่เจอกลุ่มเมฆหมอกจัด) ส่วนอีกจุดที่สามารถชมวิวได้คือบนดาดฟ้าของสถานี
Kurobedaira
หรือที่ราบคุโรเบะไดระ บริเวณด้านนอกสถานีนี้ได้จัดภูมิทัศน์เป็นสวนขนาดกลางที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ที่เติบโตบนเทือกเขาแถบนี้ และมีมุมนั่งชมวิว ซึมซับความงดงามอยู่หลายจุด นอกจากนี้ภายในสถานีมีร้านค้าและร้านอาหารเปิดบริการด้วย
Kurobe Dam
หรือเขื่อนคุโรเบะ เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญและเป็นที่เที่ยวลำดับท้ายสุดประจำเส้นทางเจแปนแอลป์ทาเตยะมะ-คุโรเบะ สำหรับตัวเขื่อนคุโรเบะตั้งอยู่ที่ความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้งสูง 186 เมตร บริเวณนี้มีทางเดินชมวิวเลียบสันเขื่อน และมีจุดชมวิวหลักๆ 2 จุดด้วยกันคือ(ดูหน้า 232)ที่ลานชมวิวขนาดกว้าง ตั้งอยู่ในระยะที่สามารถชมการปล่อยน้ำจากเขื่อนในระยะใกล้ ส่วนอีกจุดจะต้องเดินขึ้นบันไดวนไปยังลานชมวิวด้านบนที่สามารถมองเห็นเขื่อนและทะเลสาบจากมุมสูงได้แบบกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้มีจุดล่องเรือเที่ยวชมทะเลสาบคุโรเบะรอบละ 30 นาที ค่าบริการ 1,050 เยน/คน
บริการขนส่งสัมภาระ
สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามจังหวัด สามารถใช้บริการขนส่งสัมภาระ มีจุดรับบริการทั้งที่โรงแรมหลายแห่งในตัวเมือง Toyama(ลองสอบถามที่เคาน์เตอร์ได้), สถานี Dentetsu Toyama และสถานี Tateyama ค่าบริการตกชิ้นละประมาณ 1,230-1,750 เยน(แอบกระซิบว่าจากการสอบถามราคามาทั้ง 3 จุดนี้ จุดบริการที่สถานี(Dentetsu Toyama จะถูกสุดค่ะ) โดยเราสามารถระบุปลายทางที่จะไปรับสัมภาระได้ หลักๆ มี 4 จุดคือ ที่โรงแรม Midagahara,โรงแรม Tateyama ที่มูโรโด, โรงแรมที่พักในเขตน้ำพุร้อน Omachi และที่สถานี JR Shinano-Omachi
เที่ยวญี่ปุ่น เส้นทางเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route
[info-t] เส้นทางแอลป์ทาเตยามะปกติจะปิดในฤดูหนาว โดยปกติจะเปิดใช้เส้นทางได้ทั้งหมดประมาณกลางเดือน เม.ย-พ.ย. ทั้งนี้กำหนดเวลาในแต่ละปีจะใกล้เคียงแต่อาจไม่ตรงกัน ขึ้นกับสภาพอากาศ
[info-w] www.alpen-route.com/th/ (เช็คราคาปัจจุบัน)
[info-p] 1. ค่าตั๋วเดินทางรวมทั้งหมดจากสถานี Tateyama-Ogizawa ราคาประมาณ 8,290 เยน/เที่ยว (หรือตั๋วจากสถานี Tateyama-Shinano-Omachi ราคาประมาณ 9,650 เยน)
2. ค่าตั๋วเดินทางแบบรวมจากสถานี Dentetsu Toyama-Ogizawa ราคาประมาณ 9,490 เยน/เที่ยว (หรือตั๋วจากสถานี Dentetsu Toyama-Shinano-Omachi ราคาประมาณ 10,850 เยน)
3. ค่าตั๋วเดินทางแบบไป-กลับสถานี Dentetsu Toyama-เขื่อน Kurobe ราคาประมาณ 13,190 เยน
[info-d] จากตัวเมือง Toyama นั่งรถไฟเอกชนที่สถานี Dentetsu Toyama (ติดกับสถานีรถไฟ JR Toyama)สาย Toyama Chiho Railway Tateyama ไปลงที่สถานี Tateyama แล้วนั่ง Cable Car ไปยังป้าย Bijodaira จากนั้นนั่งรถบัส Highland Bus ไปลงที่ป้าย Midagahara หรือไปลงป้าย Tengudaira (ป้ายเล็กคนลงน้อย) หรือหากไม่แวะป้ายนี้ก็ไปลงที่ป้าย Murodo ได้เลย จากนั้นนั่งรถบัสไฟฟ้า Tunnel Trolley Bus ไปลงป้าย Daikanbo แล้วนั่งรถกระเช้า Tateyama Ropeway ไปลงป้าย Kurobedaira แล้วนั่ง Cable Car ลงมาที่ป้าย Kurobeko (เดินเที่ยวชมเขื่อน) แล้วเดินต่อไปที่ป้าย Kurobe Dam (จากป้าย Bijodaira ไปจนถึงป้าย Kurobe Dam เป็นจุดท่องเที่ยวทั้งหมด สามารถแวะลงแล้วเดินเที่ยวได้) นั่งรถบัสไฟฟ้า Kanden Tunnel Trolley Bus ไปลงป้าย Ogizawa จากนั้นสามารถซื้อตั๋วรถบัสท้องถิ่นเดินทางไปยังสถานีรถไฟ JR Shinano-Omachi เองได้ (หรือถ้าซื้อตั๋วรวมแล้วก็สามารถขึ้นรถบัสได้เลย)
[info-g] 36.570235, 137.522671
==============