หุบเขาเร้นลับ The Iya Valley (Iya Keikoku) หรือหุบเขาอิยะ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัด Tokushima ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งก็คือใจกลางของเกาะชิโกกุนั่นเอง บริเวณรอบๆ หุบเขานี้เต็มไปด้วยป่าไม้และป่าสนอันอุดมสมบูรณ์ท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อน และยังมีอีกหลายสถานที่ที่ยังเป็น Unseen แต่สำหรับหุบเขาอิยะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติบนเกาะชิโกกุที่ได้รับความนิยมและเลื่องชื่อของชาวญี่ปุ่น (แต่ยังเป็น unseen สำหรับคนไทยอย่างเราๆ) เพราะถึงแม้จะเป็นหุบเขาแต่การคมนาคมกลับสะดวกสบายและเข้าถึงง่ายมากทั้งมาเองหรือมากับทัวร์ นอกจากนี้ ยังสามารถมาเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล
สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ของหุบเขาอิยะแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกคือ ฝั่งตะวันออก (Oku Iya) ได้แก่ สะพานไม้เถาวัลย์โอกุอิยะ คะสุระบาชิ (Oku-Iya Kazurabashi), หมู่บ้านซามูไร (Samurai house), พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน (Higashi Iya History and Folk Museum) และจุดชมวิวเขา Tsurugi ส่วนโซนฝั่งตะวันตก (Nishi Iya) ได้แก่ จุดชมวิวและล่องเรือแม่นํ้า Yoshino สะพานไม้เถาวัลย์อิยะ รูปปั้นเด็กยืนฉี่ (Peeing boy statue) และหมู่บ้าน Iya Onsen
หุบเขาเร้นลับ The Iya Valley (Iya Keikoku)
[info-p] ฟรี
[info-d] จากเมือง Takamatsu นั่งรถไฟด่วนขบวน LTD.EXP Nanpu จากสถานี JR Takamatsu มาลงที่สถานี JR Oboke ใช้เวลาประมาณ 87 นาที
- สะพานไม้เถาวัลย์ Iya Kazurabashi
คือสะพานไม้เถาวัลย์ที่เราเห็นตามสื่อโฆษณาโปรโมทเกาะชิโกกุนั่นเอง เป็นสะพานแขวนที่ทำด้วยเชือกเถาวัลย์ที่แข็งแรงและแน่นหนา แต่เดิมเป็นสะพานที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อข้ามแม่นํ้า Iya ไปยังอีกฝั่งหนึ่ง แต่ด้วยความที่สะพานนี้เป็นแบบดั้งเดิมและหายาก แถมธรรมชาติรอบบริเวณยังสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะแม่นํ้า Iya เบื้องล่างที่มีสีเขียวมรกตตัดกับโขดหินสีขาวเป็นภาพที่งดงามอัศจรรย์
สถานที่แห่งนี้จึงได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบ Unseen ของญี่ปุ่นนักท่องเที่ยวสามารถทดลองข้ามสะพานแขวนไม้เถาวัลย์นี้ได้ ซึ่งต้องค่อยๆ เดินไปทีละก้าวอย่างระมัดระวัง เพราะสะพานจะแกว่งไกวตลอดเวลาแต่ไม่ต้องกลัวว่าสะพานจะขาดหรือชำรุดเพราะที่นี่จะทำการเปลี่ยนเชือกเถาวัลย์ทุกๆ 3 ปี เป็นสิ่งท้าทายนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน ว่าจะต้องไม่พลาดที่จะพิชิตสะพานนี้
เท่าที่เห็นจะมีเกือบทุกเพศ ทุกวัยไม่เว้นแม้แต่คุณลุง คุณป้ารวมถึงคุณตา คุณยาย ที่พากันข้ามสะพานกันอย่างสนุกสนานชนิดลืมแก่กันไปเลย หรือหากใครไม่กล้าพอ ก็สามารถเดินชมธรรมชาติรอบๆ สะพานหรือจะเดินเลียบแม่นํ้า Iya แทนซึ่งก็มีทัศนียภาพสวยงามไม่แพ้กัน (โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วง)
สะพานไม้เถาวัลย์ Iya Kazurabashi
[info-t] พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก
[info-p] ค่าข้ามสะพาน 550 เยน
[info-g] 33.875157, 133.835370
รูปปั้นเด็กยืนฉี่หรือรูปปั้นมานิคิน (Manikin) ถือสัญลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวของโซนตะวันตก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1968 ตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าผาสูงราว 200 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายที่สุดในบริเวณหุบเขาอิยะ รูปปั้นเด็กยืนฉี่เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ เล่ากันว่าในอดีตเด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้และนักท่องเที่ยวนิยมมายืนฉี่เพื่อแสดงความกล้าหาญของตัวเอง
ด้วยความสูงชันของหน้าผาหากมองลงไปด้านล่างจะเห็นความคดเคี้ยวของแม่น้ำสีเขียวมรกต โอบล้อมไปด้วยหุบเขายิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมไปด้วยสีส้ม สีเหลืองสีแดง งดงามจับใจ
รูปปั้นเด็กยืนฉี่ (Peeing boy statue)
[info-t] เปิดตลอดเวลา
[info-p] ฟรี
[info-g] 33.923566, 133.818469
- Oboke/Koboke Gorge
ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตก (Nishi Iya) บริเวณหุบเขาอิยะ (TheIya Valley) เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ บริเวณแก่งจะมีลักษณะเป็นโขดหินและซอกหินขนาดใหญ่สีเทาอมฟ้า รูปร่างแปลกตา บางช่วงจะมีหน้าผาหินเป็นรูปตัววีสีขาว แวดล้อมด้วยธรรมชาติของป่าไม้เขียวขจีจึงเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม มีแม่น้ำ Yoshino ไหลผ่าน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดโทคุชิมะ ธารน้ำไหลบริเวณแก่งยามท้องฟ้าแจ่มใสจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต
บางช่วงของนํ้าจะมีทั้งนิ่งสงบและเชี่ยวกราก หมุนวนกระทบกับโขดหินถือเป็นมนต์เสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความงามของสายน้ำ โดยเริ่มต้นจากสถานี JR Koboke หรือ สถานี JR Oboke จากนั้นก็เดินเลียบไปยังฝั่งริมแม่นํ้า ซึ่งจะมีจุดชมวิวหรือสะพานอยู่เป็นระยะ หรือใครสนใจที่จะล่องเรือชมแม่นํ้า Yoshino สัมผัสธรรมชาติก็มีบริการในราคา 1,080 เยนต่อคน ซึ่งจะมีไกด์นำชมด้วยแต่จะบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น ใช้เวลาราว 30 นาที วิธีนี้ก็จะได้ดื่มดํ่ากับธรรมชาติอย่างเต็มที่โดยเฉพาะในช่วงใบไม้ร่วงวิวทั้งสองฝั่งจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้ที่ผลัดกันเปลี่ยนสี
สำหรับท่าเรือให้บริการจะตั้งอยู่ระหว่างสถานี JR Koboke กับสถานี JR Oboke แต่จะอยู่ใกล้กับสถานี JR Oboke มากกว่า (เดินเลียบแม่นํ้าย้อนมาอีก 1.8 กม.) โดยบริการล่องเรือจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน – พฤศจิกายน เพราะในฤดูหนาวแม่นํ้า Yoshino จะกลายเป็นนํ้าแข็ง บริเวณท่าเรือยังมีร้านอาหารและร้านขายสินค้าท้องถิ่น อาหารแปรรูปและสินค้าอีกมากมาย
บริเวณนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมผาดโผนอย่างการล่องแก่ง ด้วยปริมาณน้ำฝนจำนวนมากที่ไหลเชี่ยวกรากมาตามแม่น้ำ Yoshino พร้อมกับคลื่นน้ำที่มีความสูงกว่า 3 เมตร สร้างความหวาดเสียวและสนุกสนาน รวมถึงทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดล่องแก่งที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วย
Oboke/Koboke Gorge
[info-t] เปิดตลอดเวลา
[info-p] ฟรี
[info-g] Oboke : 33.887014, 133.760527
[info-g] Koboke : 33.921500, 133.759766
ที่มาข้อมูลและภาพ : หนังสือ Unseen&Amazing Japan