เดินป่า ล่องแก่ง ปีนเขาในโตเกียว เขา Mitake ตั้งอยู่ในเมืองโอเมะ (Oume) ทางด้านทิศตะวันตกของกรุงโตเกียว ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ได้เห็นอีกมุมที่แตกต่างของโตเกียว ภูเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chichibu-Tama-Kai National Park ที่มีพื้นที่คลอบคลุมถึง 4 จังหวัด (Yamanashi, Saitama, Nagano และ Tokyo) รวมพื้นที่ราว 1,250 ตารางกิโลเมตร แหล่งท่องเที่ยวบริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งชมธรรมชาติใกล้เมืองหลวงอีกแห่งที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ที่มีทั้งภูเขา แม่น้ำ หุบเขา และกลิ่นอายของความเป็นชนบทที่สวยงาม
โดยเฉพาะในยามใบไม้พากันเปลี่ยนสีสันเริ่มต้นเส้นทางเดินชมธรรมชาติเลียบแม่น้ำทามะ (Tama River) ด้านล่างเขา ซึ่งบริเวณนี้จะได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเพราะสามารถชมใบเมเปิ้ลริมแม่น้ำและสะพานแขวนที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีเคเบิ้ลคาร์พาเราขึ้นไปชมจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่บนเขา ได้แก่ ศาลเจ้า Musashi Mitake, เส้นทางเดินชมธรรมชาติไปยังยอดเขาอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง, Rock Garden, น้ำตก, หมู่บ้านเล็กๆ บนเขา, ร้านขายของที่ระลึกรวมถึงที่พักสไตล์ญี่ปุ่น และยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Mitake Visitor Center) ตั้งอยู่ด้วย
เดินป่า ล่องแก่ง ปีนเขาในโตเกียว เขา Mitake
[info-p] เคเบิลคาร์ค่าตั๋วไป-กลับ ราคา 1,100 เยน, เที่ยวเดียว ราคา 590 เยน
[info-t] 07:10-19:00 น.
[info-d] จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟ ขบวน JR Chuo/Ome Special Rapid Service for OME มาลงที่สถานี Ome แล้วเปลี่ยนเป็นขบวน JR Ome Line for OKU-TAMA ไปลงสถานี Mitake นั่งรถบัส Nishitokyo Bus ไปยังสถานีเคเบิลคาร์ใช้เวลาอีก 10 นาที
[info-g] 35.796374, 139.161669
- เคเบิลคาร์ขึ้นเขา Mitake
เริ่มต้นเส้นทางชมเขามิตะเกะด้วยการนั่งเคเบิลคาร์จากสถานี Takimoto ระหว่างที่เคเบิลคาร์เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ คุณจะได้สัมผัสทิวทัศน์อันสวยงามเต็มไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและหมู่บ้านกลางหุบเขา ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงสถานี Mitakesan ซึ่งอยู่ด้านบน
บริเวณนี้จะมีลานชมวิวคุณจะได้เห็นทัศนียภาพอันสวยงามที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล มีร้านอาหารให้แวะเติมพลังก่อนจะออกเดินชมธรรมชาติหรือจะเลือกนั่งแชร์ลิฟต์ระยะสั้นๆ ไปยังจุดชมวิวด้านบนก็ได้แล้วเริ่มต้นเส้นทางเดิน หรือจะเริ่มต้นเดินจากสถานี Mitakesan เลยก็ได้
เคเบิลคาร์ขึ้นเขา Mitake
[info-p] เที่ยวเดียว ราคา 590 เยน, ไป-กลับ ราคา 1,100 เยน
[info-t] 09:00 – 16:00 น.
[info-g] 31.167486, 130.585551
- ศาลเจ้า Musashi Mitake
จากสถานีเคเบิลคาร์ด้านบนเขา เดินต่อไปตามเส้นทางชมธรรมชาติผ่านป่าสนก่อนจะเข้าสู่หมู่บ้าน Oshi ซึ่งมีที่พักสไตล์ญี่ปุ่นหลายแห่งเปิดบริการ มี Tourist Information Center ให้ได้สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยว และร้านอาหารให้แวะฝากท้อง รวมถึงร้านค้าให้แวะชมแวะซื้อสินค้าที่ระลึกกันด้วย ใช้เวลาราว 20-30 นาทีก็ถึงศาลเจ้า Musashi Mitake ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 929 เมตร เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และเชื่อว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้า Ooguchi Magami ในอดีตยังเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์กลางดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ตามเส้นทางแสวงบุญของภูเขาแห่งนี้ยาวนานมากว่า 2,000 ปี และปัจจุบันก็ยังคงเป็นศาลเจ้าสำคัญที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้ขอพรอย่างไม่ขาดสาย
ศาลเจ้า Musashi Mitake
[info-g] 35.782867, 139.149929
- เส้นทางเดินชมธรรมชาติ (บนเขา)
จากศาลเจ้า Musashi Mitake มีเส้นทางชมธรรมชาติและเส้นทาง hiking ให้เลือกหลายเส้นทางด้วยกัน โดยเส้นทางที่ได้ความนิยมจากนักเดินป่าชาวญี่ปุ่นและถูกยกให้เป็นเส้นทางชมธรรมชาติที่สวยงามก็คือเส้นทางที่จะไปยัง
จุดที่ถูกเรียกว่า Rock Garden (Rock Garden มีระยะทางราว 1.5 กม.) มีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีชื่อเรียกว่า Tengu-iwa Rock เป็นจุดแวะพักและถ่ายรูป
นักท่องเที่ยวมักนิยมปีนขึ้นไปบนก้อนหิน โดยมีโซ่เหล็กเป็นตัวช่วยในการไต่ขึ้นไปด้านบน แสดงถึงความท้าทาย ทางขึ้นค่อนข้างชันและลื่นใครสนใจปีนต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วย จากบริเวณหิน Tengu-iwa หากเดินไปตามทางหลักต่อไปก็จะเข้าสู่บริเวณ Rock Garden ตลอดทางจะเจอกับหินน้อยใหญ่ที่ปกคลุมด้วยมอสสีเขียวชอุ่ม
ถือเป็นเส้นทางที่ร่มรื่นและได้เต็มอิ่มกับความสดชื่นของธรรมชาติ ต้นไม้ ป่าสน ลำธารสายเล็กสามารถเดินต่อไปยังน้ำตก Ayahironotaki ระยะทางจากศาลเจ้า มาถึง Rock Garden ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหรือใครจะแยกเดินลงไปชมน้ำตก Nanayonotaki ก็ได้ จากบริเวณหิน Tengu-iwa ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ทางเดินค่อนข้างชันและต้องปีนป่ายได้บรรยากาศเดินชมธรรมชาติแบบเต็มๆ
- เส้นทางเดินชมธรรมชาติเลียบแม่น้ำทามะ (Mitake Valley Riverside Trail)
เส้นทางนี้อยู่ระหว่างสถานีรถไฟ Mitake และสถานี Ikusabata ใช้เวลาเดินราว 1-2 ชั่วโมงจะเริ่มต้นเดินจากฝั่งไหนก่อนก็ได้ แต่ทางฝั่งสถานี Mitake ค่อนข้างจะคึกคักกว่าเพราะมีทั้งร้านค้าร้านอาหาร สะพานสวยๆ ให้ถ่ายรูปอยู่หลายจุด และยังเป็นแหล่งกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็นพายเรือแคนู เรือคายัค ล่องแก่ง เป็นต้น
ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ถือเป็นสวรรค์บนดินของคนรักการเดินป่า แนว hiking เบาๆ เป็นเส้นทางที่เดินง่ายและได้ชมธรรมชาติที่สวยงามอย่างเต็มอิ่มตลอดทางเดินเลียบแม่น้ำมีจุดให้แวะพักแวะชมวิวหุบเขาและสองฝั่งแม่น้ำอยู่เป็นระยะ ใครจะแวะปิคนิคปีนโขดหินท่ามกลางป่าเขาก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
[info-g] 35.801014, 139.185175
ที่มาข้อมูลและภาพ : หนังสือ Unseen&Amazing Japan