เมืองคหบดีเก่า Omihachiman โอมิฮาจิมัง เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของทะเลสาบบิวะ จังหวัดชิงะ ในอดีตโอมิฮาจิมังเป็นชุมชนรอบปราสาทฮาจิมัง ซึ่งตั้งอยู่บนเขา Hachiman-yama เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1585 ปัจจุบันปราสาทถูกทำลายไปเหลือเพียงแค่กำแพงหินที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเท่านั้น
ชุมชนโอมิฮาจิมังเป็นถิ่นกำเนิดพ่อค้าวาณิชชื่อดังของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะด้วยความซื่อสัตย์มัธยัสถ์ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้า จึงเป็นที่เชื่อถือและมีชื่อเสียงทั่วไปในญี่ปุ่น เมื่อแต่ละคนมีความมั่งคั่งก็นำเอาความเจริญต่างๆ เข้ามาพัฒนาชุมชนมีการสร้างโรงเรียน วัดวาอาราม ศาลเจ้า อาคารบ้านเรือนรวมถึงคลังสินค้าที่ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นกลุ่มของอาคารประวัติศาสตร์ของเมือง
เมืองโอมิฮาจิมัง เป็นที่มีบรรยากาศย้อนยุคมีมนต์เสน่ห์ เอกลักษณ์สำคัญคือ คลองฮาจิมังโบริ (Hachiman bori) เป็นคลองเล็กๆ ที่ถูกขุดขึ้นมาในสมัยเอโดะ เพื่อใช้เป็นเส้นทางคมนาคมและขนส่งระหว่างชุมชนปราสาทโอมิฮาจิมังไปยังทะเลสาบบิวะ มีความยาวเกือบๆ 5 กิโลเมตร ปัจจุบันแม้จะไม่ได้เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือชมดอกไม้ ชุมชนริมน้ำและคฤหาสน์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลอง
โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานจะงดงามเป็นพิเศษ และบริเวณใกล้กันยังเป็นตรอกซอกซอยของกลุ่มอาคารบ้านเรือนเก่า มีทั้งที่บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ร้านค้า รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ ฯลฯ ซึ่งไม่เพียงแค่อาคารที่เป็นแบบญี่ปุ่นแท้เท่านั้น ยังมีสถาปัตยกรรมตะวันตกที่กระจายอยู่ในย่านเก่าแก่ของเมือง ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลงานของ Mr. William Merrell Vories สถาปนิกชาวอเมริกันที่เดินทางมาสอนภาษาอังกฤษที่เมืองนี้ในปี ค.ศ.1905 และได้เปลี่ยนสัญชาติแล้วตั้งรกรากเป็นชาวญี่ปุ่นในที่สุด
ส่วนอีกฝั่งของคลองเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า HimureHachiman-gū Shrine เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของเมือง เลยไปอีกเล็กน้อยเป็นสถานีรถกระเช้าไปยังยอดเขา Hachiman-yama เพื่อชมวิวเมืองโอมิฮามังและทะเลสาบบิวะแบบ 360 องศา
เมืองคหบดีเก่า Omihachiman
[info-d] จากเมือง Shiga นั่งรถไฟ JR จากสถานี Shiga มายังสถานี Yamashina แล้วเปลี่ยนสายรถไฟนั่งต่อไปลงสถานี Omihachiman จากนั้นขึ้นรถบัสสายที่วิ่งไปวัด Chomei-ji ลงป้าย Osugi-cho หรือเดินจากสถานี Omihachiman ไปประมาณ 1.7 กม.
[info-g] 35.141091, 136.089656
- ย่านบ้านเรือนเก่า
นอกจากบริเวณเลียบคลองฮาจิมังโบริแล้ว บริเวณตรอกเล็กๆ เลยสะพานไม้โค้งมา 1 บล็อก คือถนน Shin Machi Dori มีความยาวประมาณ 500 เมตร เป็นย่านบ้านเรือนเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม กลุ่มอาคารประวัติศาสตร์เหล่านี้เคยเป็นของพ่อค้าวาณิชในอดีตโดยมีลูกหลานสืบทอดกันมา นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยแล้ว บางหลังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้แต่ก็มีอาคารก่ออิฐถือปูนผสมผสานให้อารมณ์เหมือนได้ย้อนไปในสมัยเอโดะ
ย่านบ้านเรือนเก่า
[info-t] ตลอดเวลา
[info-g] 35.138064, 136.089321
- การล่องเรือชม 2 ฝั่งคลอง
สำหรับกิจกรรมการล่องเรือในคลองฮาจิมังโบริ เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองโอมิฮาจิมัง โดยจุดขึ้นเรือจะมีอยู่เป็นระยะบริเวณ 2 ฝั่งคลอง อดีตเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของชุมชนแห่งนี้ ปัจจุบันได้กลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ทั่วทั้งย่านยังคงมีกลิ่นอายของชุมชนพ่อค้าในยุคเอโดะบ้านเรือนและโกดังเก็บสินค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมคลองยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตลอดสองฝั่งปลูกต้นกก ญี่ปุ่น ดอกแรปซีด (Rapeseed) และต้นซากุระที่รอเติมสีสันให้กับคลองแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
การล่องเรือชม 2 ฝั่งคลอง
[info-t] 09:00 – 17:00 น.
[info-g] 35.139810, 136.088103
- ศาลเจ้า Himure Hachiman (日牟禮八幡宮)
เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองโอมิฮาจิมัง และมีประวัติยาวนาน สร้างขึ้นโดย Takenouchi no Sukune ในปี ค.ศ.131 ศาลดั้งเดิมถูกสร้างไว้บนยอดเขา Hachiman-yama จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1590 ท่าน Toyotomi Hideyori ได้ย้ายศาลมาตั้งไว้ ณ ที่ปัจจุบัน และให้สร้างปราสาทฮาจิมังไว้บนยอดเขาแทน ศาลเจ้า Himure Hachiman เป็นที่สถิตของเทพเจ้าการสงคราม จึงมีเหล่าบรรดานักรบเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตระกูล Ashikaga และตระกูล Tokugawa
ปัจจุบันศาลเจ้า Himure Hachiman ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น ประกอบไปด้วยซุ้มประตูเก่าแก่ไม้สลักขนาดใหญ่ มีสัตว์มงคล Komainu ที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตบวกสุนัข เป็นนายทวาร ศาลา Kagura-den ศาลรอง และศาลหลัก
ศาลเจ้า Himure Hachiman (日牟禮八幡宮)
[info-t] ตลอดเวลา
[info-g] 35.141091, 136.089656
- Ropeway ขึ้นเขา Hachimanyama
ในอดีตบนยอดเขา Hachimanyama แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาท Hachiman อันยิ่งใหญ่ สร้างโดย Toyotomi Hidetsugu บุตรชายบุญธรรมของ Toyotomi Hideyoshi เจ้าเมืองโอซาก้าเมื่อปี ค.ศ. 1585 แต่ปัจจุบันเหลือเพียงแนวกำแพงหินบางช่วงนักท่องเที่ยวจึงนิยมขึ้นมาชมวิวทิวทัศน์เมืองจากมุมสูงแทนหากมีเวลาสามารถที่จะเดิน Trekking หรือเดินขึ้นไปยังยอดเขาได้แต่วิธีขึ้นไปยังยอดเขา Hachimanyama ที่ดีที่สุดคือการโดยสาร Ropewayที่มีสถานีด้านล่างอยู่ติดกับศาลเจ้า Himure Hachiman นั่นเอง
โดย Ropeway จะออกทุกๆ สิบนาที และใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็จะถึงยังสถานีที่อยู่บนยอดเขา ระหว่างทางสามารถมองเห็นวิวชุมชนเมืองโอมิฮาจิมังตั้งอยู่อย่างเป็นระเบียบและถูกแวดล้อมไปด้วยทุ่งนาซึ่งเป็นที่ราบ เมื่อมองจากมุมสูงคล้ายกับพรมผืนใหญ่หลากสี รวมถึงพื้นที่ชุ่มน้ำ และทะเลสาบ Sainoko อีกด้วย
จากสถานี Ropeway ที่อยู่บนเขา จะมีทางเดินเลียบเนินเขาไปยังจุดชมวิวต่างๆ ซึ่งทางเดินจะทำเป็นรูทเชื่อมต่อกันอย่างดี บางช่วงต้องเดินขึ้นเนินหรือบันได อาทิ จุดชมวิวฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ สังเกตจากแลนด์มาร์กตัวอักษร LOVE จุดนี้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองโอมิฮาจิมัง ทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา และทะเลสาบบิวะอันกว้างใหญ่ ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดบนเขา แล้วจะมีทางเดินไปยังจุดชมวิวฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ จุดนี้จะมองเห็นวิวพื้นที่ชุ่มน้ำ ทะเลสาบ Sainoko ท้องทุ่ง และชุมชนเมืองโอมิฮาจิมัง
จากนั้นจะมีทางเดินขึ้นไปยังศาสนสถานที่อยู่ด้านบนสุดของยอดเขา คือวัดพุทธขนาดเล็กที่มีความเก่าแก่และแฝงไปด้วยความร่มเย็น ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนจะกลับลงไปยังสถานีรถกระเช้า จะต้องผ่านร้านขายของที่ระลึกของเมืองโอมิฮาจิมัง ซึ่งด้านนอกจะเป็นจุดถ่ายภาพและจุดชมวิวฝั่งชุมชนเมืองโอมิฮาจิมัง แบบไม่มีอะไรมาบดบัง จากนั้นจะมีบันไดทางลงเชื่อมไปยังสถานี Ropeway ที่มีจุดนั่งรอรวมถึงทางเดินเพื่อไปยังจุดชมวิวเล็กๆ ที่ยื่นออกไปจากสถานีอีกด้วย
Ropeway ขึ้นเขา Hachimanyama
[info-p]ไป-กลับ 880 เยน
[info-t] 09:00 – 17:00 (รอบสุดท้าย 16:30 น.)
[info-g] 35.141332, 136.088946
- ซากปราสาท Azuchi
ปราสาท Azuchi ตั้งอยู่บนยอดเขา Azuchiyama ห่างจากเมืองโอมิฮาจิมังทางตะวันออกมาประมาณ 6 กม. และอยู่ห่างจากทะเลสาบ Sainoko เพียง 1 กม. เท่านั้น ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1576 ปราสาทถูกสร้างขึ้นโดย Oda Nobunaga หัวหน้าซามูไรคนสำคัญของจังหวัดโอมิ (ชื่อจังหวัด Shiga) ซึ่งเป็นกองกำลังหลักในการปกป้องเมืองหลวงคือเกียวโตอีกที
ที่ตั้งของปราสาทมีชัยภูมิที่เหมาะสม และถูกสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบใหม่ในขณะนั้น โดยสร้างจากไม้ทั้งหลัง มีความทนทานและมีพื้นที่กว้างขวาง สูงถึง 7 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงติดอันดับโลกในยุคนั้นเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันปราสาทถูกทำลายรื้อถอนไปจนหมดสิ้นเหลือเพียงซากกำแพงหิน และบันไดหินที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่ไม่น้อย
สำหรับทางขึ้นของปราสาทมีทางขึ้นหลัก 2 ทาง ซึ่งแต่ละทางจะเชื่อมไปยังวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ เช่น เมื่อเดินขึ้นตามทางทิศตะวันตก จะพบกับซุ้มประตูวัดเก่าแก่ และเจดีย์ไม้เก่าแก่ 3 ชั้น และหากเดินขึ้นตามทางบันไดทิศใต้ ก็จะพบกับวัด Soken-ji ซึ่งเป็นวัดที่มีอาณาเขตพอสมควร และมีเจดีย์ไม้เก่าแก่ตั้งอยู่อีกแห่ง ทางขึ้นทั้งสองทางจะมีจุดแวะพักเป็นระยะ จนมาเชื่อมกัน ณ บริเวณลานชมวิว ซึ่งอยู่ด้านบนสุดของเขา และเคยเป็นสถานที่ตั้งของปราสาทเดิม รอบๆ มีทางเดินสำรวจธรรมชาติรวมถึงจุดสำหรับชมวิวเมืองและวิวทะเลสาบ Sainoko ที่อยู่เบื้องล่างแบบพาโนราม่า
ในเดือนมีนาคมของทุกปีจะมีเทศกาลอัญเชิญไฟลงมาจากซากปราสาท Azuchi ซึ่งตั้งอยู่บนเขาทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง แล้วแห่รอบๆ เมืองจนมาสิ้นสุดตรงศาลเจ้า Himure Hachiman
ซากปราสาท Azuchi
[info-p] 700 เยน
[info-t] 09:00 – 17:00 (รอบสุดท้าย 16:30 น.)
[info-g] 35.155974, 136.139418
ที่มาข้อมูลและภาพ : หนังสือ Unseen&Amazing Japan