ลานหินเสื่อทาทามิและถ้ำใต้หน้าผา Senjojiki & Sandan Dokutsu บริเวณเลียบชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองชิระฮามะ จังหวัดวาคายามะ เป็นที่ตั้งของแนวหินผาริมฝั่งขนาดใหญ่มีความยาวทั้งหมดกว่า 2 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยแผ่นหินลาดเอียงลงไปในทะเล เรียกว่า เซนโจจิกิ (Senjojiki) และที่เป็นหน้าผาสูงชัน ส่วนด้านล่างเป็นถ้ำโบราณลึกลงไปกว่า 50 เมตร เรียกว่า เซนดันเบกิ (Sandanbeki) แนวหินนี้สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นในยุค Tertiary (จาก 66 – 28 ล้านปีมาแล้ว) ถูกกัดเซาะและกัดกร่อนของคลื่นลมของมหาสมุทรแปซิฟิกมาช้านาน จนก่อให้เกิดเป็นลานหิน และชะง่อนหินรูปทรงแปลกประหลาดดังที่เห็นในปัจจุบัน
ชื่อของลานหินเซนโจจิกิ (千畳敷) แปลความหมายตรงตัวในภาษาญี่ปุ่น คือ เสื่อทาทามิจำนวนหนึ่งพันผืนที่เรียงต่อกัน ซึ่งเป็นการพรรณนาว่ามีพื้นที่กว้างขวางมาก เนื่องจากในสมัยโบราณชาวญี่ปุ่นมักจะใช้หน่วยวัดพื้นที่ต่างๆ จากการวางผืนเสื่อทาทามินั่นเอง แต่เสื่อทาทามิที่นี่นอกจากจะวางเรียงกันเป็นความกว้างแล้ว ยังวางซ้อนทับสลับกันไปจนเป็นเนินสูง บางช่วงเป็นหลุมลึกลงไปตามการกัดเซาะของน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบนลานหินได้อย่างใกล้ชิด บริเวณลานหินนี้วัดจากบริเวณที่ยาวที่สุดประมาณ 170 เมตร และส่วนที่กว้างออกไปในทะเลประมาณ 120 เมตร บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ส่วนหน้าผาเซนดันเบกิ (三段壁) จะตั้งอยู่ทางใต้ของลานหินเซนโจจิกิ โดยห่างออกมาเพียง 550 เมตร แต่ไม่สามารถเดินทะลุถึงกันได้เนื่องจากเป็นแนวหน้าผาสูงชัน ด้านใต้หน้าผามีถํ้าชื่อ Sandan Dokutsu มีความลึกลงไปจากด้านบนถึง 50 เมตร ตามตำนานโบราณของญี่ปุ่นได้กล่าวไว้ว่า ในปีที่ 50 ของจักรพรรดิ์ Kanmu-tenno กองกำลังของญี่ปุ่นที่ลาดตระเวณอยู่บริเวณนี้ ได้ถูกโจมตีจากกลุ่มโจรสลัด Tagamaru
กลางทะเลบริเวณนี้อยู่หลายครั้งจากนั้นกลุ่มโจรสลัดก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทุกครั้ง จึงสันนิษฐานว่าถ้ำใต้หน้าผาแห่งนี้ อาจเป็นฐานซ่องสุมของพวกโจรสลัด ดังมีร่องรอยที่อยู่อาศัย อาวุธ ชุดเกราะและข้าวของเครื่องใช้ของเหล่าโจรสลัดที่เหลือทิ้งไว้
สำหรับจุดชมวิวหน้าผาเซนดันเบกิจากด้านบนมีอยู่หลายจุด หลักๆ คือตรงบริเวณลานหินตะปุ่มตะป่ำที่ตั้งอยู่ทางเหนือของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยต้องเดินผ่านสวนบอนไซเข้าไปก่อน บริเวณนี้สามารถลัดเลาะไปตามโขดหิน บางช่วงนักท่องเที่ยวสามารถเดินออกไปบนโขดหินตรงจุดที่ติดทะเลได้ด้วย เพียงแต่ควรระมัดระวังลื่นล้มและห้ามเดินข้ามออกไปนอกเชือกที่กั้นเอาไว้เพราะอาจเกิดอันตรายพลัดตกหน้าผาได้
ส่วนอีกแห่งตั้งอยู่เลยศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปเล็กน้อยเป็นจุดชมวิวที่คล้ายระเบียงมีรั้วคั่นอย่างปลอดภัย พื้นที่กว้างขวางพอสมควร สามารถมองลักษณะของหน้าผา ท้องทะเล แบบพาโนรามาได้อย่างชัดเจนและสถานที่สำคัญที่สุดในบริเวณนี้คือถ้ำโบราณ Sandan Dokutsu ถํ้าแห่งนี้อยู่ลึกลงไปในหน้าผาถึง 36 เมตรเลยทีเดียว สามารถเข้าถึงโดยลิฟต์ภายในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งต้องซื้อตั๋วเข้าชมในราคาท่านละ 1,300 เยน
ตัวลิฟต์จะเชื่อมต่อระหว่างทางเข้าด้านบนกับทางเข้าของตัวถํ้าพอดี ภายในถ้ำถูกแบ่งออกเป็นห้องๆ และทำเป็นรูททางเดินอย่างดี มีแสงสว่างเพียงพอและไม่มีกลิ่นอับ บริเวณจุดสำคัญต่างๆ ก็จะมีคำอธิบายและประวัติความเป็นมาเฉพาะภาษาญี่ปุ่น อาทิ ห้องโถงเล็กๆ จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ และข้าวของเครื่องใช้ ของเหล่านักรบ และโจรสลัด
ส่วนใจกลางของถ้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลบูชา Benzaiten เทพเจ้าแห่งท้องทะเล ที่ช่วยปกปักษ์รักษาชาวประมงบนผนังถ้ำถูกประดับประดาด้วยโคมไฟโบราณอย่างสวยงามตรงด้านใต้นี้นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นคลื่นนํ้าทะเลที่ซัดลอดผ่านรูเปิดของหน้าผาหินเข้ามาในบริเวณถํ้าได้ ซึ่งรูนี้เป็นช่องทางเดียวกันกับที่โจรสลัดในตำนานได้ใช้หลบกองกำลังญี่ปุ่นนั่นเอง
จากจุดนี้ยังสามารถมองลอดไปเห็นวิวน้ำทะเลสีครามตัดกับสีของหน้าผาอย่างงดงาม รวมถึงได้สัมผัสเกลียวคลื่นที่พัดเข้ามาตามช่องกระทบกับผนังถ้ำมีเสียงดังอย่างน่าเกรงขาม
ลานหินเสื่อทาทามิและถ้ำใต้หน้าผา Senjojiki & Sandan Dokutsu
[info-p] ฟรี
[info-t] ตลอดเวลา
[info-d] จากเมือง Wakayama นั่งรถไฟด่วนของ JR ขบวน LTD.EXP Kuroshio มาลงที่สถานี Shirahama ใช้เวลา 76 นาที จากนั้นนั่งรถบัสจาก Shirahama Bus Center ไปลงที่ป้าย Senjojiki ใช้เวลาประมาณ 13 นาที ส่วนบริเวณหน้าผาเซนดันเบกิให้เดินต่อไปอีก 550 เมตรหรือนั่งรถบัสสายเดียวกันไปลงที่ป้าย Sandanbeki
[info-g] ลานหินเซนโจจิกิ 33.670688, 135.3303
[info-g] หน้าผาเซนดันเบกิ 33.667711, 135.330690
ที่มาข้อมูลและภาพ : หนังสือ Unseen&Amazing Japan