9 ไฮไลท์ต้องไป อเมริกาใต้น่าเที่ยว

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสการท่องเที่ยวประเทศในแถบอเมริกาใต้นั้นกำลังมาแรง ด้วยภูมิประเทศที่อยู่ตรงกลางระหว่าง 2 มหาสมุทรใหญ่และมีเทือกเขาแอนดีสที่ทอดยาวและลุ่มน้ำอเมซอนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทำให้ธรรมชาติที่นี่บริสุทธิ์ งดงามและยิ่งใหญ่ รวมทั้งมีแหล่งมรดกโลกที่น่าทึ่ง ชีวิตสัตว์ป่าและสัตว์แปลกที่น่าไปเรียนรู้ ใครยังเลือกไม่ได้ว่าจะไปที่ไหนดี มีอะไรให้เที่ยวกันบ้าง บทความนี้เรารวบรวมเมืองเด็ดๆ พร้อมไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดมาให้ค่ะ

1. Machu Picchu

มาชูปิกชู มีอีกสมญานามว่าเป็นเมืองสาบสูญแห่งอินคา มาชูปิกชูตั้งอยู่บนแนวเทือกทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของประเทศเปรู ที่ความสูง  2,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล และที่นี่ยังล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงเสมือนกับว่ามาชูปิกชูนั้นถูกซุกซ่อนอยู่ในม่านหมอก และถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอยู่นับร้อยปี ก่อนจะมีการค้นพบและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมืองโบราณขนาดย่อมๆ ของชาวอินคาแห่งนี้เต็มไปด้วยอารยธรรมเก่าแก่ซึ่งเป็นสมบัติทางโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

Machu Picchu

Machu Picchu

Machu Picchu

2. Easter Island

เกาะอีสเตอร์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศชิลี ที่นี่มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่น่าทึ่งอย่าง โมอาย รูปแกะสลักจากหินภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ด้วยความสูงเฉลี่ยราว 3.5 เมตร น้ำหนักราว 20 ตัน อายุนับพันปีมีจำนวนหลายร้อยตัวกระจายกันอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ ไฮไลท์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะคือ ทงการิกิ (Tongariki) รูปปั้นโมอายจำนวน 15 ตัวที่ตั้งเรียงกันริมทะเลทางตะวันออกของเกาะ

Easter Island

Easter Island

3. Salar de Uyuni

ทะเลเกลือแห่งเมืองอูยูนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโบลิเวีย อดีตทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน ปัจจุบันเป็นทะเลเกลือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่ราว 10,582 ตารางกิโลเมตร ที่นี่เต็มไปด้วยเกลือสีขาวกว้างไกลจรดเส้นขอบฟ้า ในยามฝนตกที่นี่จะกลายเป็นแอ่งน้ำที่เป็นเงาสะท้อนของท้องฟ้าตามคำขนานนามว่า “The world’s largest mirror, กระจกเงาที่ใหญ่ที่สุดในโลก”  อีกไฮไลท์ของที่นี่นั่นคือ กระบองเพชรยักษ์ สิ่งมีชีวิตเดียวที่อาศัยอยู่บนภูเขาย่อมๆ กลางทะเลเกลือ การชมอุสาหกรรมการผลิตเกลือและการแวะพักที่โรงแรมเกลืออีกด้วย

Salar de Uyuni
การถ่ายรูปน่ารักๆ กับพร๊อพตัวการ์ตูนเป็นกิจกรรมยอดฮิต

Salar de UyuniSalar de Uyuni Salar de Uyuni

4. Galapagos Island

หมู่เกาะกาลาปากอส ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเอกวาดอร์ ที่ประกอบด้วยเกาะย่อยๆ ทั้งหมด 19 เกาะ อยุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งอนุรักษ์พืชพรรณและสัตว์ป่า รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาธรรมชาติ โดยเฉพาะสัตว์หายาก…. ที่นี่เราจะได้ล่องเรือไปชมชีวิตสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะต่างๆ อย่างใกล้ชิดแบบสุดๆ หรือพ่วงโปรแกรมดำน้ำเพื่อชมสัตว์น้ำหายาก โดยไฮไลท์ของสัตว์แห่งกาลาปากอสอยู่ที่ เต่ายักษ์ (Giant Tortoise), นกบูบี (Red/Blue-Footed booby), นกโจรสลัด (Magnificent frigatebird), ปูสีส้ม (Sally lightfoot crab), สิงโตทะเล (Fur Seal), อีกัวน่าบกและอีกัวน่าทะเล (Marine Iguana) เป็นต้น

Galapagos
ปูสีส้ม (Sally lightfoot crab)

หมู่เกาะกาลาปากอส

Galapagos
นกโจรสลัด (Magnificent frigatebird)
Galapagos
เต่ายักษ์ (Giant Tortoise)

Galapagos Island

5. Torres del Paine National Park

อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปเน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศชิลี ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) บนแนวเทือกเขาแอนดีส ประกอบไปด้วยภูเขาสูง ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบและแม่น้ำน้อยใหญ่จำนวนมาก เป็นที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและยิ่งใหญ่ ไฮไลท์อยู่ที่ยอดเขาหินแกรนิตทั้ง 3 Three Towers, กลุ่มยอดเขา Paine Horns และทะเลสาบเพเว (Laguna Pehoe) แม้ว่าจะต้องใช้เวลาและกำลังขาในการเดินขึ้นเขา แต่เราจะได้รางวัลเป็นความงดงามอันทรงพลังทางธรรมชาติของที่นี่

Torres Del Paine
3 Three Towers

Torres del Paine National Park Torres del Paine National Park

6. Iguazu Falls

น้ำตกอิกวาซูที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ประกอบด้วยน้ำตกสายน้อยใหญ่รวมกันกว่า275 สาย ตั้งอยู่ตรงพรมแดนระหว่างอาร์เจนติน่าและบราซิล สามารถชมได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอาร์เจนติน่านั้นเป็นด้านเหนือน้ำตก มีทางเดินไปยังหอคอยชมวิว Devil’s Throat ที่เราจะได้เห็นความอลังการแบบเต็มตา ส่วนฝั่งบราซิลเป็นด้านล่างน้ำตก ที่นี่เราจะได้เดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่เลียบขนานไปกับลำน้ำและป่าใหญ่พร้อมสัมผัสความเย็นจากละอองน้ำและเสียงดังสนั่นของน้ำตกตลอดเวลา

Iguazu Falls Iguazu Falls Iguazu Falls

7. Los Glaciares National Park

อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอาร์เจนติน่า ในเขตภูมิภาคปาตาโกเนีย (Patagonia) ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปเนของชิลีเท่าไหร่นัก ที่นี่กลับมีไฮไลท์ที่น่าตื่นตาตื่นใจแตกต่างออกไป นั่นคือ ธารน้ำแข็งที่มีทั้งขนาดใหญ่และเล็กกว่า 200 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ เปอริโต้ โมริโน (Perito Moreno) ธารน้ำแข็งยักษ์ที่งดงามและมีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบสีฟ้ามากมายให้เราได้ชื่นชม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีในป่าเขตหนาวแห่งเทือกเขาแอนดีสอันยิ่งใหญ่แห่งนี้

Los Glaciares National Park

Los Glaciares National Park Los Glaciares National Park

8. Rio de Janeiro

กรุงริโอ เดอ จาเนโร อดีตเมืองหลวงซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศบราซิล เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดในโลก เป็นเมืองริมทะเลที่เต็มไปด้วยหาดทรายกว้างใหญ่มากมาย และเมืองทั้งเมืองยังถูกโอบล้อมไปด้วยด้วยขุนเขาที่สูงชัน ซึ่งทั้งหมดล้วนมีจุดชมวิวที่สวยงามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะรูปปั้นพระเยซูกางแขน (Christ the Redeemer) บนยอดเขา Corcovado ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคใหม่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Rio De Janeiro
รูปปั้นพระเยซูกางแขน (Christ the Redeemer)

Rio De Janeiro Rio De Janeiro

Rio De Janeiro

9. Buenos Aires

กรุงบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนติน่าตั้งอยู่ทางตะวันออกติดกับสมุทรแอตแลนติก เมืองใหญ่ที่แสนจะมีชีวิตชีวา ภาพผู้คนนั่งจิบชามาเต้ นั่งแฮงเอาท์เม้ามอยตามร้านคาเฟ่ หรือไม่ก็จับคู่เต้นเทงโก้เกี่ยวมือ บิดสะโพก สะบัดเอวเคล้าคลอเสียงเพลง ภาพอาคารบ้านเรือนสีสันฉูดฉาดแถมยังอบอวลไปด้วยงานศิลป์แบบกราฟิตี้ที่หาชมได้ง่ายๆ จนคุ้นตาประหนึ่งเป็นอาร์ตแกลเลอรี่กลางแจ้ง โดยเฉพาะที่ย่านซาน เทลโม (San Telmo) และย่านท่าเรือเก่าลา โบคา (La Boca) ที่จะทำให้เราอดอมยิ้มไปกับความสุนทรียะของเมืองนี้ไม่ได้

Buenos Aires Buenos Aires Buenos Aires Buenos Aires

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : South America & Antarctica A Journey

เรื่อง : Nyddyo DPlus Guide Team | ภาพประกอบ : กาญจนา หงษ์ทอง และ pixabay.com