อันยองงงง!!! วันนี้ขอเหลาความอยากไปปีนเขา “ซอรัคซาน” ที่ประเทศเกาหลีใต้สักหน่อย ถึงร่างกายไม่พร้อมแต่ใจพร้อมมากค่ะ ตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อขึ้นรถไฟขบวนแรกไปสถานี Gangbyeon ให้ทันรถบัสเที่ยว 7 โมงเช้าที่ Dong Seoul Bus Terminal ซึ่งเมื่อวานเราได้มาซื้อตั๋วรถบัสไว้ล่วงหน้าแล้ว “ทำไมต้องซื้อล่วงหน้า” เป็นคำถามที่ดีค่ะ!! เพราะภูเขาซอรัคซานฮอตมาก ช่วงพีคที่มีใบไม้เปลี่ยนสีแบบนี้ไม่ต้องพูดถึง แต่เราโชคดีไปวันธรรมดาและใบไม้ร่วงไปเกือบหมดแล้วก็เลยมีที่นั่งสำหรับ 4 คน ใครที่มีแพลนมาพิชิตเขาที่นี่ลองตามเรามาได้นะคะ ไม่หลงทางแต่ระวังจะหลงรักนะ ❤
วันซื้อตั๋วรถบัส
นั่งรถไฟไปลงสถานี Gangbyeon ทางออก 4 เดินข้ามทางม้าลายไป Dong Seoul Bus Terminal บอกคนขายตั๋วว่า “Sokcho” (อ่านว่า “ซกโซ”) หน้าตาตั๋วจะได้แบบนี้ ราคา 17,300 วอน/เที่ยว (ประมาณ 550 บาท) ต้องชำระด้วยเงินสดหรือบัตรของเกาหลีเท่านั้น!! บัตรเครดิตต่างชาติไม่รับนะคะทั้งในเว็บไซต์และที่สถานี
เช็คที่นั่งว่างได้ที่เว็บไซต์ www.ti21.co.kr เลือกจังหวัด สถานีต้นทาง-ปลายทาง วันที่เดินทาง เวลาออกเดินทาง จำนวนผู้โดยสาร ก็จะเห็นรายละเอียด ดังรูปด้านล่างค่ะ (ถ้าวันที่ไปตรงกับเสาร์-อาทิตย์ คนจะเยอะเป็นพิเศษ ให้รีบเช็คและรีบซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วัน)
วันออกเดินทาง
นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว มาลงที่สถานี Gangbyeon ทางออก 4 (ถ้าอยู่ไกลมีการเปลี่ยนสายต้องเช็คเวลารถไฟให้ดีนะคะ เพราะที่นี่รถไฟตรงเวลามาก ควรมาก่อนเพราะรถไม่รอ มาช้าขึ้นรถบัสไม่ทันต้องเสียเวลารอรถบัสรอบถัดไปอีก)
จากสถานีรถไฟทางออก 4 เดินข้ามทางม้าลายมาถึง Dong Seoul Bus Terminal. รถบัสไปซอรัคซานจะจอดแค่สองช่อง คือช่อง 4 กับช่อง 5 ดูเวลาที่หน้ารถบัสเป็นสำคัญ (รถจะเข้ามาจอดก่อนเวลาเดินทางประมาณ 10 นาที) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. ระหว่างทางรถบัสจะแวะจอดให้เข้าห้องน้ำได้ แต่บางคันก็วิ่งยาวถึงสถานี “Sokcho“ เลย
9 โมงนิดๆ ถึงสถานี “Sokcho Intercity Bus Terminal” ก็รีบไปซื้อตั๋วขากลับก่อนทันที เลือกเวลากลับ 5 โมงเย็น เพื่อให้ถึงสถานี Dong Seoul Bus Terminal ไม่เกิน 3 ทุ่ม (ค่าตั๋วรถคนละ 17,300 วอนเท่าเดิม) เสร็จแล้วเดินไปรอรถบัสประจำทางสาย 7-1 หน้าสถานี ใช้ T-money จ่ายได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็ถึงเขาซอรัคซาน (สุดสาย)
เดินเข้ามาจะมีจุดขายตั๋วเข้าด้านในอีกคนละ 3,500 วอน (ประมาณ 110 บาท)
ไหว้สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ วัด Sinheungsa Temple (อ่านว่า “ชินฮึงซา”)
ขึ้นเขาลูกแรก Gwongeumseong-Fortress (“กวอนกึมซอง”)
ตึกเคเบิลคาร์จะอยู่ด้านซ้าย ที่ชั้น 1 เป็นจุดขายตั๋ว ค่าตั๋วไป-กลับ 10,000 วอน (ประมาณ 320 บาท) เดินขึ้นเคเบิลคาร์ชั้น 2 กระเช้าจะมาทุกๆ 5 นาที ขึ้นได้ครั้งละประมาณ 50 คน วันธรรมดาคนไม่เยอะ ตอนเช้าอาจจะรอคิว 20-40 นาที ตอนเย็นคนน้อยอาจจะรอแค่ 10-15 นาที
ออกจากเคเบิลคาร์มาจะมีจะงอยหินตรงที่นั่งพัก ภาพในซีรีย์เกาหลีขึ้นมาในหัว “นางเอกนั่งริมหน้าผา” ดีต่อใจมากค่ะจุดนี้ เสียดายที่วันนี้ลมแรงไปหน่อย ไม่งั้นนะ… *O*
เดินต๊อกๆๆต่อไปอีกไม่เกิน 15 นาที (ช้าเร็วขึ้นอยู่กับเราเอง เดินไปถ่ายรูปไปก็ประมาณ 15 นาที)
วันนี้ลมแรง เจ้าหน้าที่กั้นไม่ให้ขึ้นไปจุดบนสุด ช่วงไหนขึ้นไปได้ก็ต้องระวังให้มาก ค่อยๆกระดึบๆๆขึ้นไป ไม่มีอะไรกั้นเลย คำเตือน!! “อย่าเปรี้ยวมาก” 55+
สภาพอากาศไม่ต้องพูดถึง ซื้อโกโก้ร้อนกลายเป็นโกโก้เย็น 2 in 1!!
ไม่ได้เดินขึ้นด้านบนก็นั่งเล่นข้างๆได้ค่ะ เสียวแต่สวยใช่มั้ยหละ
ขาลงจากเคเบิลคาร์มองเห็นเขา Ulsanbawi Rock ไกลๆ (อ่านว่า “อุลซันบาวี”) เป็นภูเขาความยากระดับ 4 เลยทีเดียว (จากทั้งหมด 5 ระดับในซอรัคซาน)
นั่งพัก หาอะไรทาน เตรียมน้ำดื่มให้พร้อม!! มุ่งหน้าสู่ Ulsanbawi (Rock) ระยะทางไป-กลับ 7.6 กิโลเมตร (ไม่มีเคเบิลคาร์) ใช้เวลาเดินไม่ต่ำกว่า 4 ชม. ผู้สูงวัยยังไหวทำไมเราจะไม่ไหว (ตอนแรกคิดแบบนี้) แล้วก็ออกสตาร์ทเดินตามป้าย Ulsanbawi (Rock) ไปเรื่อยๆ ตอน 11 โมงตรงค่ะ
^จากรูป เดินมาถึงทางแยก มี 2 ทางให้เลือก เดินไปได้ทั้ง 2 ทางค่ะ ถึงหน้าวัดให้เลี้ยวขวาเดินตรงไปเรื่อยๆ
เห็นเขา Ulsanbawi (Rock) สีขาวเด่นตระหง่านอยู่ไกลๆ คุณมาถูกทางแล้ว
เดินตามแกงค์ สาว สาว สาว ไปค่ะ ทางข้างหน้าแคบจัง คนมาน้อยจังก็ไม่ต้องตกใจ นี่เพิ่งแค่เริ่มต้น
ทริปนี้มาช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ใบไม้เริ่มร่วงไปบ้างแล้ว แต่ถือว่าโชคดียังไม่เจอหิมะ!!! เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วันซอรัคซานหิมะเข้า มองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมด ขอบคุณเจ้าป่าเจ้าเขาลูกกวางลูกวัวจะขอเดินขึ้นเขาแบบชิลล์ๆแล้วนะคะ
ในที่สุดก็ตามแกงค์ สาว สาว สาว ทัน! สมคำร่ำลือที่ว่า “คนเกาเหลีเดินเร็วนะ” 4 ชม.ของเค้าอาจจะเช้าของเราก็ได้ 55+ แต่ไม่หวั่นค่ะ ขอแซงไปก่อนนะคร้า
บรรยากาศดี อากาศดี เย็นสบาย ดีใจได้กลับคืนสู่ป่าอีกครั้ง
ทางเดินมีทั้งทางเรียบ สะพาน ขั้นบันได หินชั้น ก้าวขาแต่ละขั้นต้องใช้ความระมัดระวังสักหน่อย เราจะเห็นว่าคนเกาหลีเตรียมอุปกรณ์มาพร้อม เช่น ไม้ค้ำ, ไม้เท้า ของเราใช้ใจล้วนๆ
เหนื่อยก็พัก แวะถ่ายรูปกับสายน้ำ ลำธารกันไป ช่วงแรกก็ชิลล์แบบนี้แหล่ะ
สัตว์น้อยใหญ่ที่นี่อ้วนๆทั้งนั้น กระรอกเอย, หนูเอย ส่วนหมียังไม่เคยเห็นตัวจริง มีแต่ป้ายเตือนให้ระวัง และห้ามเข้าค่ะ
30 นาทีผ่านไป เรามาได้ 1.9 กิโลเมตร ครึ่งทางแล้วค่ะ เหงื่อเริ่มออก ได้เวลาถอดเสื้อ ถอดถุงมือ
ถึงแม้ทางเดินที่เป็นโขดหินจะขรุขระ เดินไม่ค่อยสะดวก ทำให้รองเท้าพังง่าย แต่ขั้นไม่สูงมากเหมือนบันได ช่วยผ่อนแรงได้เยอะเลยค่ะ
เรามาถึงจุดพักแรก นั่งพักบนหินขนาดใหญ่ เงยหน้าขึ้นไปเห็น Ulsanbawi (Rock) ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เดินต่อไปอีกสักพักใหญ่ก็มาถึง จุดชมวิว Ulsanbawi Observation Post และเป็นจุดนัดรวมพล จุดถ่ายรูปบนหน้าผาที่มีความชันพอสมควร ต้องค่อยๆจับราวกระดึบๆขึ้นมา มีทั้งความเสียว ความเย็น จากที่เหงื่อท่วมตัวก็สดชื่นขึ้นมาทันที
หันมองด้านขวาหายเหนื่อยไปอีก กับใบไม้เปลี่ยนสีละลานตา
มองไปด้านหลัง สวยจัง เดี๋ยวเจอกันข้างบนนะ
แต่อยู่ๆเพื่อนดันตาดี ทักว่า “แกรรรรร…มองเห็นคนไกลๆบนภูเขาปะ?” ยังมีบันไดขั้นเล็กๆๆๆ คดไปเคี้ยวมา ไม่ต่ำกว่า 100 ขั้น และคนที่เห็นไกลๆคือคุณลุงคุณป้าที่แซงหน้าไปไกลแล้ว เราจะมัวนั่งนานไม่ได้ ไปกันต่อดีกว่าค่ะ
ยิ่งเดินขาก็ยิ่งล้า น้ำที่เตรียมมาใกล้หมด ดราม่าอะไรเบอร์นี้ โชคดีทางสะดวกนั่งพักก่อนได้ไม่ต้องแคร์อายุแล้วเน้อ
เดินไปเดินมาได้ 2.8 กิโลเมตร เราก็มาถึงถ้ำ Kyejoam Seokgul (Hermitage) อ่านว่า “คแยโจอัมซอกกุ” คล้ายๆสถานที่ปฏิบัติธรรม ตกเย็นจะมีเสียงสวดมนต์จากด้านในด้วยค่ะ
ที่สำคัญเป็นจุดพักเล็กๆที่ทำให้เรามีกำลังใจเดินต่อมากขึ้น เพราะมีป้ายบอก “อีก 1 กิโลเมตรจะถึง Ulsanbawi (Rock)“ เริ่มมีความหวังว่าเราใกล้จะทำสำเร็จแล้ว
เดินขึ้นเขามาเรื่อยๆ หน้าผาแบบนี้ เมฆแบบนี้ เหมือนอยู่เขาฮัวกั่วซาน (เกิดทันไซอิ๋วถึงรู้จักสินะ)
ตัดกลับมาที่เขาซอรัคซาน คนเกาหลีที่ว่าแข็งแกร่ง..ยังมีอาการล้าให้เห็นแบบนี้
แต่กำลังใจก็มีให้กันตลอดทางจากคนที่เดินกลับลงมา “Goๆๆๆๆ” สู้ๆ อีกนิดเดียว
ใครก็ได้เปิดบันไดเลื่อนที
ยิ่งสูง..ยิ่งสวย..แต่อีกไม่กี่ขั้นเราจะถึงจุดที่สวยกว่าแล้วค่ะ
บ่าย 2 โมงตรง!! โอ้…มาย…ก๊อดดดดด ฉันมาถึงแล้ว Ulsanbawi (Rock) 3 ชั่วโมงเต็มๆ (อิจฉาคนมาเป็นคู่ไปอีก!!!)
ขาสั่น!! ลมแรงมากกกกก ต้องนั่งถ่ายกันเลยทีเดียวช็อตนี้
ค่อยๆเลื้อยตัวลงมาที่ปลายสุดทางกั้น แล้วยื่นมือออกไปถ่าย โอ้ย..มืออย่าสั่น!!!
พาวัวป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง!!! 55+ เป็นสีสันให้คนเกาหลีหัวเราะได้ไม่น้อยค่ะ แล้วก็มีเสียงท้าทายขึ้นมาว่า “ขึ้นไปยืนเลยๆ” แหม่..อย่าให้เสียชื่อวัวไทยนะเพื่อน (ไม่ถามสุขภาพเพื่อนซ้ากคำ)
I believe I can fly จากจุดนี้สามารถมองเห็นชายแดนเกาหลีเหนือได้ด้วยนะรู้ยัง?
ขากลับค่อนข้างสบายกว่าขาไป แต่ก็ใช้เวลาไม่น้อย เพราะใช้เวลาไปถึง 2 ชม. มีแวะเข้าห้องน้ำบ้าง เล่นกับกระรอกบ้าง จน 4 โมงเย็นเราก็เดินมาถึงหน้าวัดด้านล่าง ชมวิวธรรมชาติที่จะไม่มีวันลืมไปอีกนานแสนนาน
ใครใคร่ทำบุญกระเบื้องหลังคาวัดใกล้ๆหลวงพ่อองค์ใหญ่ก็จะได้เขียนขอพรแบบนี้ สาธุ -/\-
16.30 น. ต้องเดินไปรอขึ้นรถบัสประจำทางสาย 7-1 หน้าทางเข้ากันแล้ว เดี๋ยวจะไปสถานีรถบัสกลับ Dong Seoul Bus Terminal ไม่ทัน แล้วเจอกันใหม่ที่เขาซอรัคซานความยากระดับ 5 (หราาาาาาา)
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ^/\^
และขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่น่าฮัก “อ้ายโหน่ง” , “ผกาแก้ว”, “ฝนฝน” ตวยเน่อ
เรื่องและภาพ : หินตั้ง