“ม่อนแจ่ม” ชื่อนี้เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะ “ม่อนแจ่ม” มักเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวโดยส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาเที่ยวอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว เพราะไฮไลต์เด็ดของการมาเที่ยวม่อนแจ่ม นั่นก็คือการขึ้นมาดูทะเลหมอก นาขั้นบันได ชมวิวทิวทัศน์ที่มองเห็นภูเขาสูงโดยรอบ และมองเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ และยังได้สัมผัสกับธรรมชาติ ได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว แถมยังมีแปลงดอกไม้เมืองหนาวไว้ให้เดินชมความสวยงามของที่นี่อีก แต่ใช่ว่า ม่อนแจ่มจะสวยงามและน่าแวะมาเยือนแค่เฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น สำหรับเรา เราว่าม่อนแจ่มนั้น น่าเที่ยวเสมอในทุกๆ ฤดู โดยเฉพาะหน้าฝน และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบม่อนแจ่มในหน้าฝนมากกว่าหน้าหนาวอีกนะ ทำไมนะหรอ เพราะหน้าฝนของที่นี่ก็มีทะเลหมอกฟินๆ ทั้งในยามเช้าและยามเย็นให้เราได้สัมผัสนะสิ แถมหน้าฝนที่ม่อนแจ่มจะมีดอกไม้หลายชนิดบานในช่วงนี้ด้วยนะ อย่างที่เราไปมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เรอเจอดอกไม้หลักๆ อย่างดอกเวอร์บีน่า (Verbena bonariensis) ซึ่งถือว่าเป็นนางเอกของที่นี่ในช่วงหน้าฝนก็ว่าได้ มีสีม่วง บานเป็นทุ่งดอกเวอร์บีน่ากระจายไปรอบๆ บริเวณเลยล่ะ สวยงามมากๆ ดีต่อใจสุดๆ อ่อ และก็ไม่ได้มีแต่ดอกเวอร์บีน่าที่บานสะพรั่งนะ ยังมีดอกบัวดิน และดอกเดซี่บานพร้อมกันด้วยนะ แข่งสวยกันใหญ่ไปทั่วบริเวณเลยนะ ถ่ายรูปยิ่งสวย ต้องลองไปสัมผัสด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง ฟินมากค่ะ
ด้วยความที่ม่อนแจ่มอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร และเป็นพื้นที่บนสันเขา จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เราจึงพบเห็นนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวม่อนแจ่มอยู่เป็นประจำ ม่อนแจ่มเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เราจึงเห็นแปลงผักที่ปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ ของโครงการหลวง ซึ่งเน้นการทำแปลงปลูกผักและวิจัยพืชเมืองหนาว เช่น สตรอเบอร์รี่พันธุ์ 80 องั่นไร้เมล็ด ผักไฮโดรโพนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไว้คอยให้บริการ โดยส่วนประกอบหลักก็มาจากพืชพันธุ์ต่างๆ ของโครงการหลวงนั่นเอง การันตีในเรื่องของความสดและใหม่แน่นอน แถมวิวฝั่งร้านอาหารก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะตรงจุดนี้ทางร้านมีที่นั่งทานอาหารไว้คอยให้บริการ นอกเหนือจากโซนที่นั่งข้างในร้าน ก็เป็นโซนซุ้มไม้ไผ่ที่อยู่ติดริมเขาประมาณ 5 – 6 หลัง วิวดีใช่เล่น นั่งทานอาหารไป นั่งมองหมอกขาว เคลื่อนไปมาเผยให้เห็นวิวหมู่บ้านและเขาสูงเบื้องหน้าสลับไปมา เพลินดีนะ ดูชิลจัง
นอกจากร้านอาหารที่ว่ามานี้ ทางม่อนแจ่มเอง ก็มีที่พักในลักษณะเป็นแคมป์ปิ้ง โดยสังเกตจากป้ายติดแถวซุ้มไม้ไผ่ริมเขา ที่เขียนว่า Camping zone กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าชม นั่นก็คือ ที่นี่มีที่พัก ลักษณะเป็นเต้นท์ ให้เช่าเพื่อค้างคืน ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ม่อนแจ่มตรงนั้นได้เลย
ม่อนแจ่มอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง วัดระยะห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เดินทางง่ายและสะดวกมาก แนะนำว่า ใครแวะมาเที่ยวเชียงใหม่ และอยากแวะไปฟินกับทะเลหมอกและธรรมชาติสวยๆ แต่ไม่อยากเดินทางไกลมาก แนะนำให้มาเที่ยว “ม่อนแจ่ม” แห่งนี้ โดยเฉพาะหน้าฝน เพราะถ้าใครเคยมาเที่ยวม่อนแจ่มในช่วงหน้าหนาวจะนึกภาพออกว่า ที่นี่คนจะแน่นมาก ที่จอดรถไม่พอ โต๊ะที่นั่งทานอาหารต้องรอคิวนาน ฯลฯ หมดปัญหาเรื่องพวกนี้ เราแนะนำหน้าฝนค่ะ ฟินกว่าเยอะ เหมือนที่เราไปมานี่แหล่ะ ผู้คนไม่พลุกพล่านดี ที่จอดรถมีเหลือเยอะแยะ ซุ้มไม้ไผ่ริมเขาที่รับประทานอาหารก็ไม่ต้องรอคิว และที่สำคุญที่สุด เราสามารถไปฟินกับทุ่งดอกเวอร์บีน่า ที่บานสะพรั่งรับหน้าฝน แถมสายหมอกบางๆ ทั่วบริเวณ ให้เราได้เก็บรูปสวยๆ จินตนาการราวกับว่า กำลังวิ่งเล่นอยู่กลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ยังไงยังงั้นเลยแหล่ะ และไหนจะวิวธรรมชาติโดยรอบอีก บอกเลยว่าเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติและดอกไม้สวยๆ เลยล่ะ
ม่อนแจ่มเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวหน้าฝนของเชียงใหม่ที่ไม่อยากให้คุณพลาด โอ้ย พูดและก็อยากวาร์ปไปม่อนแจ่มอีกครั้งตอนนี้เลย และถ้าไม่อยากพลาดทุ่งดอกเวอร์บีน่าที่บานสะพรั่งชูช่ออวดโฉมความงามในหน้าฝน ก็รีบมาชมกันนะจ้ะ เพราะดอกเวอร์บีน่านั้นจะบานเฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น ถ้าพลาดหน้าฝนนี้ ต้องรออีกทีหน้าฝนปีหน้า เพราะฤดูหนาวไม่มีนะ รีบๆ มาเที่ยวกัน “ม่อนแจ่ม”
ม่อนแจ่มหน้าฝน ไปฟินกับทุ่งดอกเวอร์บีน่า
[info-d]เริ่มจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่ – ฝาง ตรงไปทางอำเภอแม่ริม และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1096 สายแม่ริม – สะเมิง สังเกตตามป้ายบอกทาง ให้เลี้ยวขวาที่บ้านโป่งแยง ตรงไปอีกนิดหน่อย ให้สังเกตป้ายบอกทางเป็นหลัก ที่บอกทางไปยังโครงการหลวงหนองหอย ให้เลี้ยวไปตามเส้นทางอีกนิดก็ถึงม่อนแจ่ม
[info-g] 18.935551, 98.823335
[info-l] อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (ติดต่อ : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย Tel.081-950-9767)
เรื่องและภาพ : E’Pa พาเที่ยว