One day trip in Maesot

อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก” อำเภอหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ เป็นอำเภอที่อยู่ติดกับชายแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (The Republic of the Union of Myanmar) เมืองเมียวดี (Myawaddy)  รัฐกะเหรี่ยง (Kayin State) ซึ่งสำหรับใครหลายๆ คน อาจเป็นแค่ทางผ่าน เพื่อข้ามไปยังเมืองเมียวดี ประเทศพม่า หรือเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างน้ำตกทีลอซู อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งจริงๆ เราเองก็คิดแบบนั้น แต่เชื่อไหมว่า หลังจากตัดสินใจมาเที่ยวอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นอกเหนือจากการข้ามสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมาร์ เพื่อไปเที่ยวเมืองเมียวดีแล้วนั้น กลับพบว่า “แม่สอด” ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่าน อย่างที่เราเข้าใจนะสิ

แม่สอดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย ซึ่ง One day trip ของเราในครั้งนี้  จะพาไปเที่ยวในตัวเมืองแม่สอด และพาไปสัมผัสธรรมชาติที่บ้านแม่กาษา ซึ่งบ้านแม่กาษาเป็นตำบลเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่สอดมากนัก เราเริ่มทริปแรกของวันหลังจากจัดการทำเรื่องเช่ารถที่สนามบินแม่สอดเสร็จเรียบร้อย ก็ออกไปหาอาหารเช้าเติมพลัง ก่อนออกเดินทางกันต่อ ที่ร้าน 786 Lucky Tea Shop ที่อยู่ตรงข้ามไท่ซัน เพื่อลิ้มรสอาหารมุสลิมของพม่า (Burmese food) กันที่ร้านนี้ ตามคำแนะนำของคนท้องถิ่น เนื่องจากความตั้งใจแรกนั้น เราจะไปทานอาหารเช้ากันที่ร้านโรตีโอ่ง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกรมปศุสัตว์ แต่ไปถึงตอนเก้าโมงเช้า อาหารหมดทุกอย่างแล้ว คนที่นั่นเลยแนะนำให้มาลองทานอาหารร้านนี้ดู เราสั่งข้าวแกงแบบมุสลิมพม่า โดยแกงนั้นมีทั้งแกงถั่ว แกงมัน แกงไก่ แกงแพะ และแกงเนื้อ โดยกินกับข้าวผัดถั่วแบบพม่า ซึ่งเค้าเรียกว่า สะต่อแป หรือจะกินกับข้าวขาวก็ได้ ข้าวหมกก็ได้ หรือจะกินกับโรตีโอ่งก็ได้เหมือนกัน ก็แปลกดี และก็สั่งชาพม่า กลิ่นกลมกล่อมมาทานกับอาหารเช้าที่สั่งมา เจ้าของร้านอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดีเป็นเลิศ สงสัยตรงไหน สอบถามอะไร ก็อธิบายแต่ละอย่างละเอียดเลยละ

786 Lucky Tea Shop

786 Lucky Tea Shop เป็นร้านขายอาหารพวกชา กาแฟ โรตี ข้าวแบบมุสลิมพม่า ที่แนะนำเลยก็คือ โรตีโอ่ง และข้าวแกงแบบมุสลิมพม่านั่นแหละ ร้านนี้เปิดตั้งแต่ตีห้าจนถึงสองทุ่ม แต่ถ้าเป็นโรตีโอ่ง และข้าวผัดถั่ว ที่เค้าเรียกว่า สะต่อแปนั้น จะหมดตั้งแต่ช่วงเช้าๆ ถ้าอยากลิ้มรส แนะนำว่า ให้รีบมาตั้งแต่เช้าๆ นะ

โรตีโอ่ง ร้าน 786 Lucky Tea Shop
โรตีโอ่ง
สะต่อแป ร้าน 786 Lucky Tea Shop
สะต่อแป

หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมุ่งหน้าไปไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เริ่มกันที่วัดแรก วัดไทยวัฒนาราม ซึ่งเป็นวัดหนึ่งในอำเภอแม่สอดที่สวยงามมากๆ สร้างด้วยศิลปะแบบพม่า เดินเข้าไปนึกว่าเข้าไปในวัดในพม่ายังไงยังงั้นเลยล่ะ

วัดไทยวัฒนาราม

 รูปปั้นหงส์คู่สีทอง วัดไทยวัฒนาราม

วัดไทยวัฒนาราม สร้างด้วยศิลปะแบบพม่า สีทองเหลืองอร่าม เรานั่งคุยกับพระที่วัด ท่านบอกวัสดุทำจากสังกะสีเคลือบสีทอง สวยงามจับตามาก โดยนำวัสดุนี้มาจากทางจากมัณฑะเลย์ ผ่านทางพม่าเข้ามาที่นี่ รูปปั้นหงส์คู่สีทองที่เราเห็นตั้งโดดเด่นอยู่ภายในบริเวณวัดนั้น มีตำนานมาจากเมืองหงสาวดีของพม่า รวมไปถึงวิหารพระมหามัยมุนี ที่ประดิษฐานพระมหามัยมุนีจำลอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวมัณฑะเลย์

วิหารพระมหามัยมุนี

หลังจากเราไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเสร็จ เราก็เดินชมความสวยงามภายในวัด ไปสะดุดตาตรงวิธีการทำบุญ ที่วิหารพระอุปคุต  ซึ่งแปลกตาดี นั่นก็คือ ถ้าเราจะทำบุญให้นำเงินเหรียญ 5 บาท วางลงบนตัวเรือ และเจ้าหน้าที่ที่วัดก็จะเปิดปุ่มให้ทำงาน เรือก็จะค่อยๆ ขับ พาเหรียญของเราไปเรื่อยๆ จนไปถึงพระอุปคุต ซึ่งถือบาตรอยู่ และเรือจะทำการหย่อนเหรียญนั้น ลงในบาตรของพระอุปคุตพอดิบพอดี และเรือก็วนกลับมาที่ท่าเรือตามเดิม ตื่นเต้นดี ไม่เคยเห็นที่ไหน ฮ่าฮ่า

อีกจุดนึง เราขอเรียกจุดนี้ว่าเป็น หอแสดงพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ที่เดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก เพราะว่ามีรายชื่อประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่พระพุทธเจ้าเดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาติดอยู่โดยรอบ ระหว่างที่ยืนดูประวัติของพระพุทธเจ้านั้น ก็มีพระพุทธรูปจำลอง 3 องค์ เดินออกมาบิณฑบาต โดยเราสามารถทำบุญได้ โดยการหย่อนเงินทำบุญลงไปในบาตรได้เลย และเปิดเสียงดนตรีบรรเลงเพลงประกอบ ทำนองพม่า ยิ่งทำให้ดูบรรยากาศเหมือนกำลังทำบุญอยู่ในวัดที่พม่าเลย แปลกดีนะ ไอเดียเค้าดียันการเล่าเรื่องเลยอ่ะ

พระนอนองค์ใหญ่ วัดไทยวัฒนาราม

จากจุดตรงนั้น เดินออกมานิดหน่อย เราจะเจอพระนอนองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่ใต้หลังคา ชวนให้นึกถึงพระนอนตาหวาน ที่ย่างกุ้งเลย

หลังจากเดินชมวัดได้สักพัก จึงเดินทางกันต่อ ไปที่ วัดไทยสามัคคี (หลวงพ่อทันใจ รัตนมุงเมือง) ภายในวัดประดิษฐานหลวงพ่อทันใจ “รัตนมุงเมือง”  เพื่อแวะสักการะขอพรองค์หลวงพ่อทันใจของที่นี่ ก่อนไปเที่ยว บ้านแม่กาษากันต่อ

วัดไทยสามัคคี

วัดไทยสามัคคี

วัดไทยสามัคคี

บ้านแม่กาษาเป็นตำบลเล็กๆ ตำบลหนึ่งในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่สอดมากนัก โดยใช้เวลาขับรถจากตัวเมืองแม่สอด ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ระหว่างทางมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีความเป็นธรรมชาติตลอดสองข้างทาง ทั้งภูเขา ต้นไม้ ต้นหญ้า ท้องนาที่รายล้อมรอบด้าน เหมาะแก่การมาพักผ่อนยิ่งนัก ถ้าได้มาเที่ยวช่วงหน้าหนาวคงฟินน่าดูเลย แถมที่บ้านแม่กาษายังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย หลากหลายรูปแบบ ทั้งวัด ถ้ำ น้ำตก น้ำพุร้อน ออนเซ็น เป็นต้น รอให้ทุกคนไปสัมผัสด้วยตัวเอง

น้ำตกแม่กาษา

เริ่มกันที่แรกเมื่อมาถึงบ้านแม่กาษากันเลย เนื่องด้วยเรามาถึงที่นี่เป็นเวลาเที่ยงพอดี จึงแวะมาคลายร้อนกันหน่อยที่น้ำตกแม่กาษา น้ำตกเล็กๆ ของตำบลแม่กาษาแห่งนี้ ถ้ามาหน้าร้อน น้ำจะน้อยหน่อย ตอนเราไปเป็นหน้าฝนพอดี แต่ฝนตกๆ หยุดๆ เลยเที่ยวได้ ไม่มีปัญหาอะไร พอไปถึงน้ำตก ก็มีเด็กๆ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นั่งดูเด็กๆ เล่นน้ำสักพัก เราก็ไปเที่ยวกันต่อ อ่อ ข้างๆ น้ำตกแม่กาษา มีคาเฟ่ชื่อว่า “Kasa Cup” ด้วยนะ ใครอยากนั่งชิลกันต่อ ไปร้านคาเฟ่นี้ได้ วิวมองเห็นน้ำตกและอ่างเก็บน้ำของที่นี่ด้วยนะ วิวดีเลย

จุดต่อไป หลังจากแช่น้ำเย็นกันแล้ว เราก็ไปแช่น้ำร้อนกันบ้าง ที่ น้ำพุร้อนแม่กาษา ซึ่งเป็นน้ำพุร้อนขนาดเล็กมีบ่อให้เราต้มไข่ แช่เท้า หรือแช่ตัว เป็นห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัวก็มีนะ

น้ำพุร้อนแม่กาษา

ส่วนเรานะหรอ ก็ไปแช่เท้านะสิ และก็ต้มไข่ด้วยนะ ตามสูตรเลย น้ำพุร้อน ต้องคู่กับไข่ต้มสิ ถึงจะฟิน เราไม่รอช้า ตรงเข้าไปซื้อไข่เลยจ้ะ โดยมีให้เลือกระหว่างไข่ไก่ และไข่นกกระทา โดยพี่คนขายไข่ต้มให้เราบอกกับเราว่า ไข่ที่เอามาต้มที่น้ำพุร้อน ต้มยังไง ไข่ก็ไม่สุกทั้งหมดนะ ไข่ขาวจะมีเหลวๆ อยู่บ้าง ซึ่งเค้าเรียกว่า ไข่วุ้น สำหรับไข่นกกระทาให้ต้มประมาณ 15 นาที และไข่ไก่ให้ต้มประมาณ 20 นาที ก็เป็นอันกินได้ ฟินมากทั้งได้แช่เท้า และทานไข่วุ้นของที่นี่ อร่อยดีนะ

น้ำพุร้อนแม่กาษา

ต้มไข่นกกระทา ที่น้ำพุร้อนแม่กาษา

เออ แถวนี้มีถ้ำแม่อุษาด้วยนะ พ่อค้าแม่ค้าบอกว่า แถวนี้มีถ้ำแม่อุษาด้วยนะ แต่ช่วงที่เราไปเที่ยวช่วงนั้น กระแสถ้ำแรง ตอนที่เราไปจึงปิดไม่ให้เข้า จริงๆ ก็เพราะเป็นหน้าฝนด้วย เลยเข้มงวดสุดๆ ไปเลย

จุดต่อมา ถ้าใครยังไม่ฟินกับการแช่น้ำร้อนเมื่อกี้กัน เราก็แนะนำ ให้ไปแช่น้ำร้อนต่อกันที่ อโรคยาศาลโป่งคำราม ออนเซ็นแห่งแม่กาษา สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพของคนที่นี่กันต่อ โดยเชื่อว่า น้ำแร่ที่นี่สามารถรักษาโรคบางชนิด และแก้อาการเมื่อยล้ามาตลอดทั้งวัน โดยการแช่น้ำ เพื่อช่วยผ่อนคลาย โดยที่อโรคยาศาลโป่งคำรามแห่งนี้ มีการแบ่งโซนแช่น้ำร้อนกัน โดยแบ่งเป็นฝั่งชายและหญิง โดยใช้อุณหภูมิต่างกัน อย่างเช่น ฝั่งผู้หญิง อุณหภูมิน้ำประมาณ 42.7 องศาเซลเซียส และฝั่งผู้ชาย อุณหภูมิประมาณ 47 องศาเซลเซียส เป็นน้ำแร่ที่ปราศจากกรดและกลิ่นกำมะถัน เราสามารถไปเช่าผ้าถุง ตรงจุดเช่าของมาใส่แช่น้ำแร่ที่นี่ได้ โดยแช่ในถังไม้โอ๊ค สไตล์ญี่ปุ่นดูดี อย่างที่บอกว่า ถ้ามาเที่ยวช่วงหน้าหนาว และแวะมาแช่น้ำแร่ที่ อโรคยาศาลโป่งคำราม น่าจะฟินไปสุดๆ เลยแหล่ะ ว่าไหม (≧◡≦)

อโรคยาศาลโป่งคำราม

อโรคยาศาลโป่งคำราม

ค่าบริการแช่น้ำแร่ที่อโรคยาศาลโป่งคำรามแห่งนี้ สำหรับคนไทยให้บริการฟรี ชาวต่างชาติคิดค่าบริการที่  1,000 บาทต่อคน ใครแช่เสร็จแล้ว อยากหาอะไรเย็นๆ ดื่มต่อ ก็เดินไปที่ อโรคยาศาล คอฟฟี่  (Arokayasaran coffee) ร้านคาเฟ่ที่อยู่ข้างๆ อโรคยาศาลแห่งนี้ ซึ่งร้านคาเฟ่นี้เพิ่งเปิดไม่นาน วิวด้านนึงเป็นเขา อีกด้านเป็นทุ่งนา จิบกาแฟไป มองวิวไป เพลินเลย

อโรคยาศาล คอฟฟี่

อโรคยาศาล คอฟฟี่

อโรคยาศาล คอฟฟี่

แช่น้ำแร่ธรรมชาติเสร็จแล้ว สบายตัว เราก็กลับตัวเมืองแม่สอดกันต่อ และแวะไปทานขนมจีนเจ้าดังที่เค้าแนะนำกันมาว่าห้ามพลาด นั่นก็คือ ขนมจีนขยุ้ม ร้านคุณน้อย อ.แม่สอด จ.ตาก หน้าตาน่าทาน อร่อยด้วยนะ

ขนมจีนขยุ้ม ร้านคุณน้อย

หลังจากกินเสร็จก็แนะนำไปปิดทริปแม่สอดที่ ตลาดริมเมย โดยตลาดริมเมยนั้น จะอยู่สุดชายแดนไทย – พม่า เน้นขายพวกขนม เสื้อผ้า อัญมณี ของใช้ ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น แนะนำว่าให้ไปถึงตลาดก่อนหกโมงเย็น เพราะเราอ่านมาว่า ตลาดปิดประมาณหกโมงเย็น แต่พอไปถึง ยังไม่หกโมงเย็นเลย ตลาดปิดแล้ว 5555 เลยเดินข้ามไปตลาดสดฝั่งตรงข้ามแทน

ตลาดริมเมย

เห็นไหมว่าอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีสถานที่ดีๆ และสวยๆ มากมายให้เราได้ไปเที่ยวกัน ไม่ใช่แค่อำเภอทางผ่าน อย่างที่เราเข้าใจกัน และที่เราไปมานี่แค่ส่วนน้อยนะ จริงๆ แล้วแม่สอดยังมีที่เที่ยวอีกเยอะเลยล่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากแนะนำให้ทุกๆ คน ไปเที่ยวอำเภอแม่สอดกันเยอะๆ เพียงคุณมีเวลาแค่หนึ่งวัน ก็ยังเที่ยวแม่สอดได้เลย รอช้าอยู่ไย ไปเที่ยวแม่สอดกันเถอะ

 

เรื่องและภาพประกอบ : E’Pa พาเที่ยว